ข้อความโดย: Preecha Yokthongwattana
« เมื่อ: มิถุนายน 24, 2015, 04:04:43 PM »ทบทวนให้อีกครั้งครับ
"ที่ดินหัวไร่ปลายนา" คือ ที่ดินที่ราษฎรขอจับจองที่ดินแปลงเล็กแปลงน้อย ได้แก่ ที่ดินของรัฐที่มีเนื้อที่ต่ำกว่า 1,000 ไร่ ซึ่งอาจจะมีพื้นที่กระจัดกระจายไม่ติดต่อเป็นผืนเดียวกัน หรือที่ดินที่มีเนื้อที่ติดต่อเป็นผืนเดียวกัน ที่ดินที่อยู่ติดต่อกับที่ดินซึ่งมีการทำประโยชน์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะติดต่อกับที่ดินของผู้ขอเอง หรือติดต่อกับที่ดินของผู้อื่น เรียกว่าที่ดินหัวไร่ปลายนาทั้งสิ้น จะมีอยู่ทั่วไปแปลงละไม่กี่ไร่ โดยรัฐจะออกใบจอง (หนังสือแสดงการยอมให้เข้าครอบครองที่ดินชั่วคราว)ให้แก่ผู้จับจอง เพื่อให้ทำประโยชน์ในที่ดินภายใน 3 ปี นับแต่วันที่ได้รับใบจอง และจะต้องทำประโยชน์ในที่ดินร้อยละ 75 ของที่ดินที่ออกใบจอง
ที่ดินที่มีใบจองนี้ ถ้ายังไม่ได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ จะโอนให้แก่บุคคลอื่นไม่ได้ เว้นแต่จะตกทอดทางมรดก โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นทายาทโดยธรรมหรือผู้รับพินัยกรรม เมื่อทำประโยชน์ตามเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว ก็มีสิทธินำใบจองนั้นมาขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3, น.ส.3 ก. หรือ น.ส.3 ข) หรือโฉนดที่ดินได้ แต่หนังสือรับรองการทำประโยชน์หรือโฉนดที่ดินนั้นจะต้องตกอยู่ในบังคับห้ามโอนตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
ในกรณีนี้การที่นาย ก. ได้สร้างประตูเหล็กในที่ดินของตนเอง จึงเป็นเรื่องของเอกชนซึ่งหน่วยงานราชการไม่อาจเข้าไปสั่งการให้รื้อถอนได้ แต่หากมีผู้ได้รับความเดือดร้อนก็คงต้องใช้สิทธิในทางศาลเพื่อฟ้องร้องว่าการกระทำของนายก. เป็นการใช้สิทธิเกินส่วน กล่าวคือ แม้ว่าเป็นการใช้สิทธิในพื้นที่ของตนเอง แต่ก็ทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนเกินสมควร ตามกฎหมายลักษณะละเมิด (มาตรา 421) ครับ
"ที่ดินหัวไร่ปลายนา" คือ ที่ดินที่ราษฎรขอจับจองที่ดินแปลงเล็กแปลงน้อย ได้แก่ ที่ดินของรัฐที่มีเนื้อที่ต่ำกว่า 1,000 ไร่ ซึ่งอาจจะมีพื้นที่กระจัดกระจายไม่ติดต่อเป็นผืนเดียวกัน หรือที่ดินที่มีเนื้อที่ติดต่อเป็นผืนเดียวกัน ที่ดินที่อยู่ติดต่อกับที่ดินซึ่งมีการทำประโยชน์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะติดต่อกับที่ดินของผู้ขอเอง หรือติดต่อกับที่ดินของผู้อื่น เรียกว่าที่ดินหัวไร่ปลายนาทั้งสิ้น จะมีอยู่ทั่วไปแปลงละไม่กี่ไร่ โดยรัฐจะออกใบจอง (หนังสือแสดงการยอมให้เข้าครอบครองที่ดินชั่วคราว)ให้แก่ผู้จับจอง เพื่อให้ทำประโยชน์ในที่ดินภายใน 3 ปี นับแต่วันที่ได้รับใบจอง และจะต้องทำประโยชน์ในที่ดินร้อยละ 75 ของที่ดินที่ออกใบจอง
ที่ดินที่มีใบจองนี้ ถ้ายังไม่ได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ จะโอนให้แก่บุคคลอื่นไม่ได้ เว้นแต่จะตกทอดทางมรดก โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นทายาทโดยธรรมหรือผู้รับพินัยกรรม เมื่อทำประโยชน์ตามเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว ก็มีสิทธินำใบจองนั้นมาขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3, น.ส.3 ก. หรือ น.ส.3 ข) หรือโฉนดที่ดินได้ แต่หนังสือรับรองการทำประโยชน์หรือโฉนดที่ดินนั้นจะต้องตกอยู่ในบังคับห้ามโอนตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
ในกรณีนี้การที่นาย ก. ได้สร้างประตูเหล็กในที่ดินของตนเอง จึงเป็นเรื่องของเอกชนซึ่งหน่วยงานราชการไม่อาจเข้าไปสั่งการให้รื้อถอนได้ แต่หากมีผู้ได้รับความเดือดร้อนก็คงต้องใช้สิทธิในทางศาลเพื่อฟ้องร้องว่าการกระทำของนายก. เป็นการใช้สิทธิเกินส่วน กล่าวคือ แม้ว่าเป็นการใช้สิทธิในพื้นที่ของตนเอง แต่ก็ทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนเกินสมควร ตามกฎหมายลักษณะละเมิด (มาตรา 421) ครับ