ด้วยข้าพเจ้า(จำเลย) ได้ขายที่ดินให้กับโจทก์(ซึ่งเป็นตำรวจ) โดยที่ดินของข้าพเจ้าอยู่ด้านหน้าที่ดินของโจทก์และโจทก์ได้พึงพอใจในที่ดินของข้าพเจ้าและมาติดต่อซื้อที่ดินกับข้าพเจ้าเอง โโยที่ข้าพเจ้าไม่ได้ไปบอกขายที่ดินดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินมรดกที่เป็นชื่อของบิดาและเมื่อบิดาเสียชีวิต ข้าพเจ้าก็ได้ไปโอนเป็นชื่อของข้าพเจ้า โดยที่ดินดังกล่าวมีเนื้อที่ตามโฉนดจำนวน 1 ไร่ 2 งาน 59 ตารางวา และข้าพเจ้ากับโจกท์ก์ได้ตกลงซื้อขายกันในราคา 2,400,000.-บาท โดยโจทก์ซึ่งเป็นผู็ซื้อเป็นผู้เขียนสัญญาซ์้อขายเอง โดยระบุว่าตกลงซื้อที่ดินตามโฉนดเลขที่... จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 1 ไร่ 2 งาน 59 ตารางวา ซึ่งก็เป็นเนื้อที่ตามโฉนดที่ออกโดยกรมที่ดิน และเมื่อมีการซื้อขายกันเสร็จและโอนที่ดินพร้อมจ่ายเงินกันเรียบร้อยแล้ว โจทก์จะนำที่ดินที่ซื้อข้าพเจ้าไปรวมกับที่ของโจทก์ และได้จ้างช่างรังวัดเอกชนมาวัดที่ของข้าพเจ้าที่ได้ขายไปแล้ว และได้มาแจ้งให้ข้าพเจ้าว่าที่ดินขาดไป 229 ตารางวา และจะมาเรียกเงินคืนจากข้าพเจ้า 834,018.-บาท  และได้กล่าวหาว่าข้าพเจ้าทราบอยู่ก่อนแล้วว่าที่ดินขาด   ข้าพเจ้าขอเรียนว่าที่ดินดังกล่าวบิดาซึ่งได้เสียชีวิตได้ไปซื้อไว้ และข้าพเจ้าซึ่งเป็นบุตรก็ไม่เคยไปทำการใด ๆ ในที่ดินเลย และก็ไม่เคยไปตรวจสอบที่ดินดังกล่าวแต่อย่างใด เพราะข้าพเจ้าถือว่าโฉนดที่ดินออกจากหน่วยงานของทางราชการจะผิดได้อย่างไร และข้าพเจ้าก็ไม่เคยทราบมาก่อนด้วยว่าเนื้อที่จริง ๆ ของที่ดินมีเท่าไร ข้าพเจ้าก็ได้ยึดถือตามโฉนด และในวันซื้อขายในสัญญาก็ได้ระบุว่าซื้อขายที่ดินจำนวน 1 แปลง และได้ระบุุเนื้อที่ตามโฉนดที่ดินดังกล่าว ในราคา 2,400,000บาท
   ข้าพเจ้าขอเรียนถามว่า เมื่อมีการฟ้องร้อง ข้อหาผิดสัญญาซื้อขายที่ดิน ส่งมอบที่ดินเนื้อทีน้อยกว่าสัญญา โจทก์จะสามารถชนะคดีได้หรือไม่ เพราะข้าพเจ้ามีความคิดว่าจะสู้คดีกับโจทก์ในชั้นศาลต่อไป เพราะข้าพเจ้ามิได้มีการผิดสัญญาหรือรู้เรื่องที่ดินว่ามีเนื้อที่น้อยกว่าในสัญญาตามที่โจทก์กล่าวหา แต่เนื่องจากโจทก์เป็นตำรวจข้าพเจ้าก็เกรงว่า หากสู้คดีแล้วจะสามารถสู้ได้หรือไม่ จึงอยากขอคำแนะนำจากท่าน ว่าควรจะทำอย่างไรหรือให้ข้อแนะนำในการสู้ความกับโจทก์ต่อไป....ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ