สำนักงานทนายความ

ตอบ

ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
พิมพ์ชื่อประเทศของเราลงไป ::

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: ayeweb
« เมื่อ: มกราคม 07, 2013, 11:53:24 AM »

ขอบคุณมากๆครับ ความรู้เน้นๆ :)
ข้อความโดย: abczyx159
« เมื่อ: เมษายน 28, 2012, 03:23:49 PM »

 ;D ขอบคุณนะคะ ได้ความรู้แยะเลย

________________________________
ผู้พิพากษา, รอลงอาญา, อภัยโทษ
ข้อความโดย: Numfon_za
« เมื่อ: เมษายน 27, 2012, 04:54:02 PM »

 ;D ;D ;D
ข้อความโดย: Showbasic
« เมื่อ: เมษายน 22, 2012, 09:18:04 PM »

กำลังจะซื้อรถพอดีครับ เลยเข้ามาหาข้อมูล เพราะตอนนี้ราคาของประกันสูงมากครับ เลยไม่อยากเสียเปล่า เพราะพื้นที่อยู่ใกล้เขตย้ำท่วมมากครับ
ข้อความโดย: reemza002
« เมื่อ: เมษายน 17, 2012, 02:06:00 PM »

ขอบใจจ้า :-[ ::)
ข้อความโดย: Preecha Yokthongwattana
« เมื่อ: ตุลาคม 30, 2011, 03:55:03 PM »

ขอบคุณ คุณ pridtenpe ครับที่ร่วมแสดงความคิดเห็น

ทีมงานของเรา รวมถึงตัวผมเอง ก็อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมครับ

การอัพเดตเพิ่มเติมข้อมูลต่างๆ ช่วงนี้คงจะยากลำบากสักหน่อยครับ

โปรดรอคอยข้อมูลความรู้เกี่ยวกับกฎหมายใกล้ตัวในเรื่องอื่นๆต่อไปนะครับ
ข้อความโดย: pridtenpe
« เมื่อ: ตุลาคม 29, 2011, 08:13:41 PM »

น่าสงสารคนที่ถูกน้ำท่สมมาดเลยครับ
ข้อความโดย: Preecha Yokthongwattana
« เมื่อ: ตุลาคม 15, 2011, 02:37:55 PM »

บทความตามกระทู้นี้น้องทีมงานเป็นผู้จัดทำขึ้นนะครับ

ต่อไปก็จะเป็นข้อแนะนำ/ข้อควรปฏิบัติกรณีเกิดความเสียหายขึ้นกับรถ อันเนื่องมาจากภัยน้ำท่วม

ข้อควรปฏิบัติ กรณีรถยนต์ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม เมื่อรถยนต์ของท่านได้รับความเสียหายจากเหตุน้ำท่วม มีข้อควรปฏิบัติ ดังนี้

1. ก่อนอื่น ท่านควรแยกเอกสารสำคัญที่เกี่ยวกับรถของท่าน และเอกสารเกี่ยวกับการประกันรถยนต์ เช่น กรมธรรม์ ไว้นอกรถ เพราะท่านต้องใช้อ้างอิงในการแจ้งข้อมูลแก่บริษัทประกัน
2. ท่านควรแจ้งบริษัทประกันทันที ที่ทราบความเสียหาย (แจ้งเคลม)
3. ท่านควรถ่ายภาพรถยนต์ และความเสียหายที่เกิดขึ้นเก็บไว้เป็นข้อมูล และใช้ชี้แจงแก่บริษัทประกัน
4. ในกรณีที่บริษัทประกันไม่สามารถส่งพนักงานไปบันทึกและตรวจสอบความเสียหายได้ (อาจเพราะไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้) ท่านควรถ่ายภาพไว้ตามข้อ 3. และควรให้บุคคลอื่น เช่น คนในครอบครัว หรือ เพื่อนบ้าน เป็นพยานที่สามารถยืนยันความเสียหายที่เกิดขึ้นได้
5. กรณีที่ไม่สามารถแจ้งบริษัทประกัน หรือภาพภาพไว้ได้ ท่านควรบันทึกรายละเอียดข้อมูลความเสียหายไว้เช่น วันที่ที่เกิดความเสียหาย สภาพความเสียหายเท่าที่ประจักษ์ได้ด้วยตา และรีบแจ้งบริษัทประกันทันทีเมื่อท่านสามารถแจ้งได้
6. จากข้อ 5. หากท่านสามารถไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ เพื่อขอให้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน เกี่ยวกับเหตุ และข้อมูลความเสียหายของรถยนต์เบื้องต้นเท่าที่ท่านเห็นประจักษ์ด้วยตา จะเป็นประโยชน์แก่ท่านเป็นอย่างมาก

หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านนะครับ
ข้อความโดย: Preecha Yokthongwattana
« เมื่อ: ตุลาคม 15, 2011, 02:33:07 PM »

ในถานการณ์ที่เกิดน้ำท่วมหนักแบบนี้ หากรถยนต์ของเราเสียหายจากน้ำท่วม จะทำอย่างไร?

มีคำตอบเชิงแนะนำเกี่ยวกับกฎหมายดังนี้ครับ

กรณีรถยนต์เสียหายเพราะเหตุน้ำท่วม ท่านสามารถเรียกร้องต่อบริษัทประกันได้หรือไม่

ก่อนอื่นท่านจะต้องสำรวจข้อมูลของตนเองว่า ท่านได้ประกันรถยนต์ไว้ตามกรมธรรม์ประเภทใด เพราะแต่ละประเภทมีความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ซึ่งโดยปกติแล้วจะมี 3 ประเภท ได้แก่

ประเภท 1(ชั้น 1 ) ความคุ้มครอง คือ
? ความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ
? ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
? ความเสียหายของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย
? ความเสียหายต่อตัวรถยนต์เนื่องจากไฟไหม้ และการสูญหาย

ประเภท 2 (ชั้น 2) ความคุ้มครอง คือ
? ความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ
? ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
? ความเสียหายต่อตัวรถยนต์เนื่องจากไฟไหม้ และการสูญหาย

ประเภท 3 (ชั้น 3) เป็นประเภทที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก ดังนี้
? ความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ
? ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก

ในปัจจุบันมีกรมธรรม์ประเภทพิเศษ 2+ / 3+ ผู้เอาประกันภัยประเภทนี้ จะได้รับความคุ้มครองแบบมีเงื่อนไขตามแต่บริษัทประกันกำหนด เช่น
   1. อุบัติเหตุที่เกิดจากการชนกับยานพาหนะทางบก เท่านั้น
   2. ต้องมีคู่กรณี
   3. เป็นฝ่ายผิด
   4. รับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก 1,000 บาท (ตามที่ระบุ) ต่อการซ่อมรถคันที่เอาประกัน
   ดังนั้น เป็นที่ชัดเจนว่าสำหรับการทำประกันรถยนต์ภาคสมัครใจนั้น (ที่ท่านเลือกทำกับบริษัทประกันต่างๆนั่นแหละ เรียกว่า ภาคสมัครใจ ไม่ได้โดนบังคับแต่อย่างใด) กรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายจากน้ำท่วม มีเพียงกรมธรรม์ประเภท 1 หรือประกันชั้น 1 เท่านั้น ส่วนประเภท 2, 3, 2+, 3+ ไม่ได้รับความคุ้มครองเรื่องความเสียหายจากน้ำท่วมรถ
   !!!!! แต่มีประเด็นที่ท่านจะต้องรับรู้ไว้เพิ่มเติม คือ ท่านอาจจะต้องชำระค่าเสียหายส่วนแรก 1,000 บาท ของความเสียหายอันมิได้เกิดจากการชนหรือคว่ำ ตามประกาศ คปภ. ฉบับ ที่ 22/2551 ซึ่งเดิมนั้น กำหนดไว้ที่ 2,000 บาท เพราะความเสียหายอันเกิดจากการประสบภัยน้ำท่วมไม่ใช่ความเสียหายอันเกิดจากการชน ซึ่งเป็นประเด็นที่จะต้องติดตามการตีความของคปภ.ต่อไป!!!!! (อาจต้องทำใจจ่าย 1,000 บาท ค่ะ)
รู้ไว้ใช่ว่า......
   
   เกณฑ์การพิจารณาค่าสินไหมทดแทนจากน้ำท่วม
   หากท่านทำประกันรถยนต์ ชั้น 1 ไว้และรถเกิดความเสียหายจากน้ำท่วมนั้น สามารถเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ โดยปกติจะต้องพิจาณาจาก ความเสียหายที่เกิดขึ้นตามจริง ดังนี้
   1. เสียหายสิ้นเชิง (total loss) ในที่นี้หมายถึงเสียหายจนไม่อาจซ่อมให้อยู่สภาพเดิมได้ หรือค่าความเสียหายไม่น้อยกว่า 70% ของมูลค่ารถยนต์ ขณะเกิดความเสียหาย เช่น โดยน้ำท่วมทั้งคันหรือ ท่วมเกินคอนโซลหน้า
   2. เสียหายแต่ไม่ถึงเสียหายสิ้นเชิง (partial loss) ในกรณีนี้ บริษัทรับประกัน จะซ่อมให้จนรถกลับสู่สภาเดิมก่อนเสียหาย
   การที่กรมธรรม์ไม่ได้ระบุความรับผิดไว้ชัดเจนกรณีน้ำท่วมนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถยกเว้นความรับผิดได้นะค่ะ ดังนั้น ถ้าบริษัทฯประกันไหนอ้างว่า ไม่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ท่านสามารถฟ้องร้องได้ค่ะ
   ....... ขอให้ทุกคนที่ประสบภัยพิบัติครั้งนี้ปลอดภัย และสบายใจเรื่องรถยนต์ได้ค่ะ.......
(กรณีท่านที่ไม่ได้ทำประกันไว้ อย่าเพิ่งเครียดค่ะ ลองติดตามข่าวต่อไปว่า หน่วยงานไหนที่ท่านจะสามารถใช้สิทธิ หรือขอรับเงินเพื่อชดเชยความเสียหายได้บ้าง อาจได้ไม่เต็มที่แต่ต้องสู้ต่อไปค่ะ)