สำนักงานทนายความ

ตอบ

ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
พิมพ์ชื่อประเทศของเราลงไป ::

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Preecha Yokthongwattana
« เมื่อ: ตุลาคม 07, 2014, 02:25:08 AM »

ขอตอบคำถามที่ตกหล่นครับ

กรณีการครอบครองปรปักษ์ มีหลักคือ ครอบครองที่ของบุคคลอื่นโดยสงบ โดยมีเจตนายึดถือเพื่อตน ถ้าครอบครองเกินกว่า 10 ปี ผู้ครอบครองย่อมได้กรรมสิทธิ์ และมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลสั่งให้ตนเองได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ได้ครับ

กรณีตัวอย่างที่เล่ามา อ่านฟ้องแล้วยังมีข้อให้ต้องพิจารณาครับ ว่าเนื้อหาที่บบรยายฟ้อง จะเข้าลักษณะเป็นการครอบครองปรปักษ์ตามกฎหมายหรือไม่

หวังว่าคดีคงจะจบในรูปแบบที่ไม่เสียหายนะครับ
ข้อความโดย: tutaro
« เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2013, 08:44:23 PM »

วันนี้สดๆร้อนๆ ได้รับแม่หมายศาลมาค่ะ หนูยังเป็นนักเรียนอยู่ ก็เลยอยากทราบค่ะ ขออนุญาติพิมพ์ย่อๆนะค่ะ
ในที่ดินที่แม่เป็นเจ้าของ และมีโฉนดที่ดิน มีผู้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการ"ครอบครองปรปักษ์"
ขอยื่นคำร้องมีข้อความตามที่กล่าวต่อไปนี้

ข้อ๑. ผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิ์ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินแปลง น.ส.๓ ก. เลขที่ ๑๘๒๘ ....จำนวน"เนื้อที่ ๖ ไร่ ๑ งาน ๔๐ ตารางวา" ส่วนที่ดินแปลงโฉนดเลขที่ ๘๓๒๓ เลขที่ ๖๑ ..... เนื้อที่ประมาณ ๒ ไร่ ๑ งาน ๓๐ ตารางวากับที่ดินแปลงโฉนดเลขที่๘๐๒๑ เลขที่ดิน๖๒ .... เนื้อที่ประมาณ ๒ ไร่ ๒๖ ตารางวา มีนาง(แม่หนู)ผู้จัดการมรดกของ(ยาย) เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ซึ่งที่ดินทั้ง ๓ แปลงดังกล่าวนี้มีแนวเขตข้างเคียงติดต่อกัน รายละเอียดปรากฎตามสำเนา น.ส.๓ก. และสำเนาโฉนดที่ดินเอกสารแนบท้ายคำร้อง....

ข้อ๒. ที่ดินแปลงน.ส.๓ก.ฉบับดังกล่าวของผู้ร้องนั้น เดิมเป็นที่ดินมือเปล่าของของ ตา ก. (นามสมมุติ)ปิดาผู้ร้อง ต่อมาเมื่อพ.ศ.๑๕๒๖ ตา ก.(นามสมมุติ) ได้มอม(หนูไม่ได้พิมพ์ผิดนะค่ะ เขาพิมพ์มาแบบนี้จริงๆ ไม่รู้ว่าเขารีบหรืออะไร)ที่ดินแปลงนี้ให้แก่ผู้ร้องทั้งแปลง และผู้ร้องได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินแปลงนี้นับตั้งแต่พ.ศ.๒๕๒๖เป็นต้นมา ทั้งผู้ร้องได้ดำเนินการร้องขอออกน.ส.๓ก. ในปีเดียวกันนี้
    ต่อมาผู้ร้องได้นำน.ส.๓ก. ฉบับดังกล่าวไปยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานที่ดิน ........ เพื่อขอออกโฉนดที่ดิน และแบ่งแยกให้แก่ทายาท แต่เมื่อผู้ร้องนำเจ้าหน้าที่ทำการรังวัด ผลปรากฏว่าที่ดินแปลงน.ส.๓ก.ฉบับดังกล่าวนี้มีเนื้อที่ทั้งหมด"รวมประมาณ ๗ไร่ ๒ งาน ๘๔ตารางวา"ร้องไห้ที่ดินมันงอกเพิ่มได้ด้วยหรอค่ะ) ซึ่งมากกว่าเนื้อที่ตามที่ปรากฏในน.ส.๓ก.ฉบับดังกล่าว จำนวนประมาณ ๑ ไร่ ๑ งาน ๔๔ ตารางวา และปรากฏว่าเนื้อที่ในส่วนที่เกินจำนวนดังกล่าวนี้ "ทับซ้อน"อยู่ในที่ดินแปลงโฉนด(ของแม่หนู) ......

ข้อ๓. ผู้ร้องขอกราบเรียนต่อศาลที่เคารพอีกว่า จำนวนเนื้อที่ประมาณ ๑ ไร่ ๑ งาน ๔๔ ตารางวาซึ่งทับซ้อนอยู่ในที่ดินมีโฉนดจำนวน ๒ แปลงของ(แม่หนู) ดังกล่าวนั้น ผู้ร้องได้รับมอบจากบิดา พร้อมกับเนื้อที่ทั้งหมด ตามปรากฏในน.ส.๓ก. มาตั้งแต่พ.ศ.๒๕๒๖ และเนื้อที่ในส่วนนี้ยังมีแนวเขตเป็นที่ดินเดียวกันกับเนื้อที่ที่ดินแปลงน.ส.๓ก.ฉบับดังกล่าวของผู้ร้อง กับทั้งผู้ร้องได้ครอบครอง และทำประโยชน์ ด้วยการปลูต้นเทียม ปลูกยางพารา ด้วยความสงบ เปิดเผย เจตนาเป็นเจ้าของ มาตั้งแต่พ.ศ. ๒๕๒๖ จนถึงปัจจุบันเวลาเกินกว่า ๑๐ ปีแล้วโดย(แม่หนู) และบุคล(เขาพิมพ์มาแบบนี้)อื่นมิได้โต้แย้งสิทธิ์ของผู้ร้องแต่ประการใดเลย ผู้ร้องจึงได้กรรมสิทธิ์ในสิทธิ์ในที่ดินทั้ง ๒ แปลง รวมจำนวนตามที่ผู้ร้องครบครอง(เขาพิมพ์มาแบบนี้) ผู้โดยประมาณ ๑ ไร่ ๑ งาน ๔๔ ตารางวา ด้วยการครอบครองปรปักษ์ อาศัยเหตุผลดังที่ผู้ร้องได้กราบเรียนต่อศาลที่เคารพมาทั้งหมดข้างต้น ขอศาลที่เคารพได้โปรดไต่สวนคำร้องฉบับนี้ และได้โปรดมีคำสั่งแสดงว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงโฉนดเลขที่..... ของ(แม่หนู) รวมจำนวนเนื้อที่ ๒ แปลงโดยประมาณ ๑ ไร่ ๑งาน ๔๔ ตารางวา ด้วยการครอบครองปรปักษ์ และขอศาลที่เคารพได้โปรด มีหนังสือแจ้งคำสั่งศาลไปยังเจ้าพนักงานที่ดินจจังหวัด...... เพื่อผู้ร้องจะได้ไปดำเนินการขอให้เจ้าพนักงานที่ดิน.......

แบบนี้มีสิทธิ์ได้รับกรรมสิทธิ์ในที่ดินด้วยการครอบครองปรปักษ์หรือไม่ ???
แล้วอีกอย่าง... พิมพ์ผิดแบบนี้... เชื่อถือได้อีกหรอค่ะ
แล้ว... ถ้าแม่จะเรียกค่าเสียหาย ได้หรือไม่