สำนักงานทนายความ

ตอบ

ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
พิมพ์ชื่อประเทศของเราลงไป ::

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: titynasus09
« เมื่อ: ธันวาคม 03, 2013, 01:34:42 PM »

คำลังหาคำตอบเลยครับผม
ข้อความโดย: ทนายศุภกร 085-6259445
« เมื่อ: สิงหาคม 06, 2013, 02:13:21 PM »

ตอบ...เห็นใจครับ ต้องยอมรับความจริงอยู่เรื่องว่า การเป็นคดีความคือการโต้แย้งที่รุนแรงที่สุด ควรเริ่มจากขั้นเบาที่สุด คือ
1) ควรแจ้งให้นิติบุคคลหรือผู้นำชุมชนทราบโดยอาศัยความเป็นผู้นำชุมชนนั้นเข้าว่ากล่าวตักเตือนเจ้าของบ้านโดยเพิ่มประเด็นเรื่องการเก็บของว่าเป็นของอะไร น่าจะเป็นอันตรายต่อโครงสร้างบ้าน ก่อให้เกิดเพลิงไหม้ หรืออื่นๆ ขอให้มาตรวจสอบ
2) หากไม่ได้ผล ต่อมาคือการแจ้งความต่อตำรวจขอลงบันทึกประจำวันอ้างเหตุตามที่เห็นสมควร
3) ขั้นสุดท้ายคือ ฟ้องศาล แต่ต้องมองผลในอนาคตว่านอกจากจะสร้างความไม่พอใจให้อีกฝ่ายแล้วครอบครัวเราจะสงบสุขได้หรือไม่...ครับ
ข้อความโดย: anakin
« เมื่อ: สิงหาคม 01, 2013, 10:51:49 AM »

รบกวนสอบถามครับ บ้านเป็นทาวเฮ้าส์ 3 ชั้น ทีนี้มีคนมาซื้อข้างบ้านผมเป็นที่เก็บอะไหล่รถยนต์ (คือหน้าร้านของเค้าจริงๆอยู่หน้าปากซอยประมาณว่าพอมีคนมาซื้อของเค้าก็จะมาเอาของที่นี่ ) ซึ่งของเค้าส่วนใหญ่จะเป็นจำพวกเหล็กหรือพวกโลหะซึ่งดูหนักๆทั้งนั้น เค้ามีลูกน้องเกือบสิบคน ก็จะมีการมาเอาของเข้าออกจากที่นี่ทั้งวันตั้งแต่ 9 โมง ถึงสองทุ่ม ซึ่งประเด็นคือ พวกลูกน้องเค้ามักจะชอบโยนของ ซึ่งของส่วนใหญ่ก็เป็นอะไหล่รถทั้งนั้น เวลากระแทกพื้นที่เป็นปูนสนั่นไปทั้งบ้าน และที่สำคัญคือเราไม่รู้เลยครับว่าเสียงดังสนั่นแต่ละทีนี่จะมาเมื่อไหร่ บางทีนั่งทานข้าวกันอยู่ ก็ดัง ปั้ง! ลั่นบ้าน คือแบบอารมณ์ไม่อยากจะทานต่อเลย แถมหน้าบ้านพวกลูกน้องเค้าก็ชอบส่งเสียงโวยวายเรียกว่ากลบเสียงทีวีในบ้าน มิหนำซ้ำรถที่มาส่งของก็มาจอดขวางหน้าบ้านผมอีก บางทีทิ้งขยะหน้าบ้านผมกันแบบหน้าตาเฉย คุณแม่ต้องเก็บทุกวัน เป็นแบบนี้ทุกวันมาเกือบสองปีแล้ว เคยทั้งแจ้งเจ้าของร้านและก็ขอร้องพวกลูกน้องเค้าไปหลายครั้งแล้ว แต่เค้าก็รับฟังไปอย่างงั้น ไม่มีอะไรดีขึ้นเลยครับ โดยเฉพาะหลังๆพวกลูกน้องเค้านี่เหมือนกับว่าจะจงใจแกล้งด้วยซ้ำ พอคุณแม่ไปต่อว่าเกรงใจคนอื่นบ้างได้มั้ย เค้าก็ยืนผิวปากทำไม่รู้ไม่ชี้ ครอบครัวผมไม่เคยอยู่กันอย่างสงบสุขเลย คุณพ่อผมก็เป็นโรคหัวใจด้วย คุณแม่ก็อายุมากแล้ว จะพักผ่อนในบ้านก็ไม่ได้ เราพยายามทนมาตลอด แต่ตอนนี้เริ่มจะไม่ไหวแล้วครับ เพราะมันหนักขึ้นทุกวัน พอจะมีหนทางไหนทางกฎหมายที่จะช่วยได้มั้ยครับ