สำนักงานทนายความ

ตอบ

ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
พิมพ์ชื่อประเทศของเราลงไป ::

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: seenui
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2015, 05:40:10 PM »

สมัยนี้ก้อ ไว้ใจใครไม่ได้ ซักค น
ข้อความโดย: Preecha Yokthongwattana
« เมื่อ: มกราคม 31, 2015, 12:52:35 PM »

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะครับ จะทำธุรกิจใดๆร่วมกับคนอื่น ก็พยายามทำเอกสารหลักฐานกันให้ชัดเจนครับ และให้มองหลายๆมุม ทั้งดีและเสีย เพื่อชั่งน้ำหนักก่อนตัดสินใจครับ
ข้อความโดย: Oifujiko
« เมื่อ: มกราคม 08, 2015, 10:17:29 AM »

ผมก็โดนมาเหมือนกันครับ ลงทุนขายกาแฟสุดท้ายไปไม่รอด เงินเราจมหมดเลยครับ
ข้อความโดย: Manosssin
« เมื่อ: มกราคม 06, 2015, 03:33:40 PM »

ผมก็เคยโดนเพื่อนโกงเงินครับ เพราะความไว้ใจแท้ๆ
ข้อความโดย: Preecha Yokthongwattana
« เมื่อ: ตุลาคม 16, 2014, 07:15:47 PM »

ผิดเพราะไว้ใจ เชื่อใจ และประมาท (การร่วมทุนทำธุรกิจย่อมมีความเสี่ยงเสมอ)

เรื่องนี้เป็นการตกลงใจเข้าร่วมทำธุรกิจด้วยกัน ระหว่างผู้ที่อยู่ในแวดวงธุรกิจประเภทเดียวกัน โดยการประสานและชักชวนของนายโกง (นามสมมุติ) หลังจากรู้จักกันมาปีกว่าๆ เนื่องจากนายโกงนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญในระบบคอมพิวเตอร์ และการเขียนโปรแกรม ซึ่งได้ขายโปรแกรมให้แก่ผู้ที่ทำธุรกิจในแวดวงหนึ่งจนได้รู้จักกับผู้ประกอบธุรกิจหลายราย หลังจากนั้นนายโกงก็ได้ชักชวนนายเอ นายบี นายซี มาร่วมทุนกับตน โดยลงเงินคนละ 2 ล้าน ซึ่งไม่ต้องจ่ายเต็มก็ได้ ผ่อนๆไป นายเอ นายบี นายซี เพียงแค่ลงเงินเท่านั้น เพราะตนรู้ว่าทั้งสามไม่ค่อยมีเวลา อีกทั้งอยู่ต่างจังหวัด ตนจะเป็นผู้บริหารธุรกิจเองโดยคิดค่าจ้างบริหารเดือนละหนึ่งแสนบาท และให้พ่อตนเข้าร่วมเป็นผู้ถือหุ้น

นายโกงและแม่สร้างความสนิทคุ้นเคยกับเอ บี ซี และพาเอ บี ซีไปออกหน้าร่วมในเคมเปญต่างๆทางธุรกิจตลอด โดยภาพลักษณ์เป็นไปอย่างสวยงาม ถึงขั้นมีทริปไปดูงาน (เที่ยว) ต่างประเทศ ระหว่างนั้นการทำธุรกิจเป็นภาพที่สวยงามมาก แต่ก็ไม่มีการปันผลใดๆ นั้นหมายถึงทุกคนยังไม่ได้ผลตอบแทน เพราะนายโกงบอกว่าอยู่ในระหว่างการระดมทุน การโฆษณา ในการดำเนินธุรกรรมต่างๆนายโกงจะเป็นผู้ทำทั้งสิ้น โดยนายโกงได้ขอเอกสารส่วนตัวจากผู้ร่วมลงทุนไปคนละชุดตั้งแต่ครั้งแรกที่จัดตั้งบริษัท

เมื่อถึงเวลาสิ้นปีนายโกงได้เรียกระดมทุนเพิ่ม เพราะอ้างว่าธุรกิจขาดทุน จนหุ้นส่วนทุกคนงงมาก จึงเป็นที่มาของการขอตรวจสอบบัญชี และพบการทำธุรกรรมทางการเงิน การเปิดบัญชีในนามหุ้นส่วนคนหนึ่งโดยปลอมลายมือชื่อและเบิกถอนเงินมาโดยตลอด ชนิดที่เรียกว่าลายมือที่แท้จริงยังสู้ลายมือปลอมไม่ได้ ถึงขั้นมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกันหลายคดี เพราะนายโกงกับแม่ก็สู้ยิบตาเหมือนกัน

ความซวยมาตกที่หุ้นส่วนตรงที่การออกหน้ากับลูกค้าต่างๆในนามบริษัท นายโกงได้ให้หุ้นส่วนทั้งหมดเป็นผู้ออกหน้า อีกทั้งเมื่อธุรกิจส่อเค้าไม่ดี นายโกงก็ปิดเวปไซส์และยังใส่ข้อมูลชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรของหุ้นส่วน เผื่อให้ลูกค้าติดต่อ จนหุ้นส่วนทุกคนต้องรับโทรศัพท์กันหัวหมุน ปัญหาสำคัญในการฟ้องร้องดำเนินคดีคือ นายเอ บี ซี แทบจะไม่มีเอกสารเกี่ยวกับบริษัท เพราะไว้ใจ เพราะไม่มีเวลา เพราะไม่รอบคอบ แต่อยากทำธุรกิจ

เรื่องนี้มีความซับซ้อนอีกมาก ขอเล่าเบาๆเพียงเท่านี้นะคะ

ข้อคิดดีๆ คือ การคิดทำธุรกิจเราควรเริ่มจากตัวเราเองเป็นหลัก เมื่อไรก็ตามที่มีการร่วมหุ้น ร่วมทุน ทุกอย่างต้องชัดเจน เราเองก็ต้องมีความสนใจ ใส่ใจ รอบคอบ เรื่องเอกสารเป็นสิ่งสำคัญอย่าปล่อยปละละเลย ถ้าเราสร้างความชัดเจนตั้งแต่ต้นปัญหาจะลดน้อยลง เงินเป็นสิ่งที่ไม่เข้าใครออกใคร และทำให้จิตใจคนเปลี่ยนค่ะ

ขอบคุณในการติดตามอ่านค่ะ

ทนายพี่เปิ้ล

SPLA LAW Co.,Ltd

Tel.089-7881248

ติดตามอ่านเรื่องเล่าดีๆเกี่ยวกับปัญหากฎหมายได้ที่ http://www.oknation.net/blog/pieapplelaw/2014/10/16/entry-1
นะครับ>>>ทนายปรีชาแนะนำครับ