สำนักงานทนายความ

รับปรึกษากฎหมาย => ถามตอบ ร้องทุกข์ ทนายความ ปรึกษากฎหมาย ทั่วไป ฟรี 24 ชม => ข้อความที่เริ่มโดย: magga ที่ พฤษภาคม 27, 2013, 08:25:28 PM

หัวข้อ: ขอคำปรึกษา...คดีฉ้อโกงประชาชนครับ...
เริ่มหัวข้อโดย: magga ที่ พฤษภาคม 27, 2013, 08:25:28 PM
เหตุที่เกิดมีรายละเอียดดังนี้ครับ...

เมื่อประมาณปี 2553 ผมสนิทกับรุ่นพี่ท่านหนึ่ง ซึ่งผมก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนดีคนหนึ่ง มีปัญหาเดือดร้อนอะไรก็จะปรึกษาอยู่บ่อยๆ และพี่ท่านนี้ยังพาผมไปทำงานพิเศษในเวลาที่ผมว่างจากช่วยแม่ขายของด้วย เวลาที่ผมไปทำงานพิเศษกับเขา (เช่น ออกบูธ-ทำแบบสอบถามตามมหาลัยฯ) มีบางครั้งพี่เขาก็มาขอยืมบัตร ATM ของผมไป โดยบอกว่าตัวแทนที่จ้างงานโอนเงินเข้ามาแต่บัตรเขากดเต็มวงเงินแล้วจึงขอยืมบัตรผมแทน หรือที่บ้านโอนมา ลูกหนี้โอนมาบ้าง ผมเกรงใจและไม่คิดอะไรก็ให้ไป

ต่อมาเมื่อต้นปี 2554 คนที่เช่าคอนโดของแม่ผม (ทะเบียนบ้านผมอยู่ที่คอนโดที่ให้เช่านี้ครับ) บอกว่ามีชาย 2 คนอ้างเป็นตำรวจมาถามหาผมแล้วเข้ามาค้นภายในห้องบอกว่ามีหมายค้นด้วย ผู้เช่าจึงตกใจจึงให้เข้ามาแต่ไม่มีอะไรเสียหาย จึงมาบอกกับแม่ผมให้ฟัง ผมได้ฟังต่อจากแม่ก็ตกใจว่าตำรวจมาตามหาผมทำไมแต่คิดว่าไม่ได้ทำอะไรผิดก็เลยไม่ได้คิดมากเท่าไหร่ ช่วงตั้งแต่ต้นปี 2554 ผมก็ไม่ได้กลับไปทำงานพิเศษกับพี่ที่ยืมบัตร ATM ของผมแล้วเพราะแฟนผมอยากให้ทำงานประจำ ตั้งแต่ต้นปีผมก็สมัครงานมาตลอด บางครั้งเหมือนว่าจะได้งานแน่ๆอยู่แล้วก็กลับไม่ได้ เป็นแบบนี้อยู่หลายที่ จนเมื่อสิงหาคม 2554 มีบริษัทหนึ่งโทรมาบอกว่าที่ไม่รับผมเพราะผมมีหมายจับคดีฉ้อโกง ผมตกใจก็ปรึกษาคนโน่นคนนี้ไปทั่วว่าต้องทำยังไงทำไมอยู่ดีๆผมถึงมีหมายจับ และผมยังได้โทรปรึกษาพี่ที่ยืมบัตรผมในตอนนั้นด้วย เขาก็รับฟังที่ผมบอกแต่แทบไม่ค่อยออกความเห็นอะไร จนทางบ้านผมบอกให้ผมติดต่อไปแสดงความบริสุทใจกับทาง สน.ที่ออกหมายจับผมไว้ ผมก็ไปเจ้าหน้าที่จึงแจ้งผมว่า มีผู้หญิงท่านหนึ่งติดต่อซื้อขายโทรศัพท์ทางอินเตอร์เน็ต ราคา 8700 บาท แต่ไม่ได้รับของ แต่ผู้หญิงท่านนี้ได้โอนเงินมาเข้าบัญชีที่เป็นชื่อของผมก่อนแล้ว ตอนนั้นผมไม่เคยขายอะไรทางอินเตอร์เน็ตและให้เลขบัญชีเลยผมก็แปลกใจ แต่หมายจับออกปี 2553 ซึ่งมีคนเดียวที่ผมให้เลขบัญชีและยืมบัตรด้วย ก็มีแค่พี่คนที่ผมบอกไปตอนต้น ผมพยายามติดต่อเขาแต่ก็ติดต่อไม่ได้ สุดท้ายโชคดีที่ทางตำรวจนัดคู่กรณีมาเจรจาได้ ผมจึงได้ชดใช้เงินจำนวนนั้น และทางคู่กรณีก็ถอนแจ้งความให้

หลังจากนั้นผมก็ติดตามหาตัวพี่ที่ยืมบัญชีและบัตรผม ทุกที่ที่เขาไปประจำก็ไม่เจอ และคิดว่าเรื่องคงจะจบแล้ว จนเมื่อปลายปี 2555 ผมได้สมัครงานไว้ที่หนึ่ง ผมได้รับคัดเลือก หลังปีใหม่บริษัทแจ้งว่าจะโทรมาตกลงเรื่องนัดวันเซ็ต์สัญญาอีกครั้ง แต่ก้ไม่ติดต่อมาผมร้อนใจและอยากจะทำงานที่นี่มาก เพราะบริษัทนี้มีสวัสดิการและความมั่นคงที่ดี ผมจึงโทรไปสอบถามกับทางฝ่ายบุคคล ได้รับคำตอบว่าผมมีคดีติดตัวอยู่ ผมจึงบอกว่าเป็นคดีที่เกิดจากมีคนแอบอ้างเอาบัญชีผมไปใช้ และผมก็ชดใช้เงินผู้เสียหายแทนแล้ว

เมื่อผมได้ชี้แจงกับบริษัท ทางบริษัทจึงแนะนำให้ผมเอาใบถอนแจ้งความมายืนยัน ตอนนั้นผมเข้าใจว่าประวัติผมคงค้างอยู่ทางเจ้าหน้าที่น่าจะลืมลบ ผมจึงโทรไปสอบถามกับทางผู้กองที่ทำคดีผมในตอนนั้นเพื่อขอความกรุณาให้ช่วยออกเอกสารใบถอนแจ้งความและเซ็นต์รับรองเอกสารให้ผมใช้เริ่มงาน เมื่อได้คุยทางโทรศัพท์ผู้กองก็ยินดีช่วยเหลือ และได้ขอเลขบัตร ปชช ของผมไปเพื่อเช็คเลขคดีเพราะเรื่องผ่านมานานมากแล้วผู้กองท่านจำไม่ได้ ผมจึงส่ง SMS เลขบัตร ปชช ไปให้ทันทีพร้อมระบุชื่อ-นามสกุลด้วย ซักพักผู้กองก็โทรกลับมาหาบอกว่าจัดการให้ผมแล้ว และถามผมว่าจะเข้ามาเอาเอกสารเมื่อไหร่ ผมติดธุระอยู่จึงบอกว่าพรุ่งนี้ได้ไหมครับซึ่งผมคิดว่าจะไปกับแฟน แต่ทางผู้กองบอกว่าเข้ามาวันนี้เลยจะได้คุยอะไรกันด้วย ผมบริสุทใจ และไม่ได้คิดอะไรก็รีบอาบน้ำนั่ง TAXI ไปที่ สน.ทันที พอผมไปถึงทางผู้กองก็บอกว่าเช็คเลขบัตร ปชช ผมแล้วคดีที่ผมกังวลจบไปเรียบร้อยเพราะมีการถอนแจ้งความไปแล้ว แต่ผมติดหมายจับติดอยู่ที่ ปคบ. หมายจับออกกลางปี 2554 ผมก็งงครับว่าจะมีได้ยังไงก็เมื่อปี 2554 ปลายเดือนสิงหาคม ผมยังไป สน. อยู่และทางเจ้าหน้าที่ยังตรวจเช็คประวัติผมด้วย ในตอนนั้นก็ไม่มีคดีความหรือหมายใดๆเลย ซึ่งทางผู้กองก็อธิบายผมว่าหมายจับอาจจะยังไม่เข้าระบบ ในส่วนข้อกล่าวหาในรายละเอียดหมายจับของ ปคบ. ระบุว่าผมกระทำผิด "พรบ.ธุรกิจตลาดแบบตรง และฉ้อโกงประชาชน" ผู้เสียหายที่แจ้งความเป็นผู้หญิงท่านหนึ่ง แจ้งว่าได้สั่งโทรศัพท์ไว้แล้วไม่ได้รับของ ยอดเงินโอนเข้ามาที่บัญชีผมจำนวน 4300 บาท ระบุว่ายังมีผู้เสียหายอื่นอีกด้วย(แต่ในหมายจับมีชื่อโจทย์แค่เพียงคนเดียวครับ) และในวันนั้นผมได้รับอนุญาติให้ใช้ตำแหน่งราชการของอาประกันตัวออกไป จากวันนั้นจนถึง ณ ตอนนี้ผมเครียดมากไม่รู้จะทำยังไง ธุรกิจขายตรงอะไรที่ว่าผมก็ไม่เคยทำ แล้วฉ้อโกงประชาชนอีก แล้วถ้าเงินที่ผ่านเข้ามาบัญชีผมเป็นเงินจากการกระทำผิดจริงผมจะทำยังไงดีครับ(ผมเองก็ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเงินนั้นเลยด้วยซ้ำ) ลูกสาวผมก็กำลังขึ้นอนุบาล 2 แต่ผมกลับต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ จากข้อกล่าวหาของผู้เสียหายบอกว่าผมไปโพสประกาศขายของแบบพรีออเดอร์ข้อมูลที่ประกาศผมก็ยังไม่เคยเห็น หลังจากนั้นผมได้ไปติดต่อกระทรวงไอซีที ได้รับความช่วยเหลือดีมากครับ แต่ว่าเลข IP คนที่โพสถ้ากระทู้ถูกลบไปแล้วเพราะเกิน 1 ปี ไม่สามารถดูได้ทางไอซีทีแจ้งผมแบบนั้น ถึงตอนนี้ผมขอความช่วยเหลือด้วยนะครับ ผมนิ่งรอให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมาแบบนี้จะดีไหม(และผมก็ไม่รู้ว่าจะติดต่อผมมาเมื่อไหร่) ถ้าผมติดต่อไป แล้วผมเกิดได้งานขึ้นมาก็ต้องลางานอีก ผมเกรงว่าจะทำให้ไม่ผ่านช่วงทดลองงานครัับ(ซึ่งผมก็หางานได้ยากขึ้นทุกวัน) ผมจะต้องอะไรบ้างครับ แนวทางที่ผมควรจะทำมีอะไร และมีซึ่งใดที่ผมยังไม่ได้ทำอีกบ้างครับ สุดท้ายผมต้องถูกลงโทษจำคุกหรือเปล่าครับ(ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยรับโทษใดๆก่อนหน้านี้เลย) ผมไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน และจนถึงวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ติดต่อผมมาเลยครับ ตอนนี้จะทำอะไรก็ชะงักไปหมดจะเดินหน้าทำอะไรก็ทำได้ไม่เต็มที่ ห่วงลูกสาวและแฟนมากครับ ไม่รู้จะเป็นยังไงทนายความผมก็ยังไม่มี รบกวนช่วยให้คำแนะนำผมด้วยนะครับผมปวดหัวและเครียดมากๆเลย สุดท้ายกรณีคดีความลักษณนี้ผลสรุปจะเป็นยังไงบ้างครับ

รบกวนเป็นอย่างสูง ขอบพระคุณมากๆครับ
หัวข้อ: Re: ขอคำปรึกษา...คดีฉ้อโกงประชาชนครับ...
เริ่มหัวข้อโดย: Preecha Yokthongwattana ที่ มิถุนายน 02, 2013, 06:34:37 PM
ในส่วนที่มีหมายจับอยู่ก็ต้องเคลียร์ครับ ซึ่งเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว ในส่วนของทางป้องกันก็ต้องให้ตำรวจบันทึกเป็นหลักฐานไว้ด้วยว่าเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้กับทางเรา หากเราพอมีหลักฐานว่าคนที่ทำคือคนที่เคยรู้จักกันคนนั้นเราก็ต้องแจ้งความกับตำรวจเพื่อดำเนินคดีด้วย มิฉะนั้นเราอาจต้องคอยแก้ปัญหาที่จะเกิดในอนาคตอยู่เรื่อยๆ เราอาจเพิ่มทางป้องกันเช่น การไปทำบัตรประชาชนใหม่  ยกเลิกการใช้บัตรเก่าโดยให้ตำรวจบันทึกไว้ให้เป็นหลักฐาน ควรปิดบัญชีธนาคารเดิม และต่อไปต้องระมัดระวังมากขึ้นครับ อย่าไว้ใจใครง่าย การให้สำเนาบัตรประชาชนไปกับคนอื่น หรือให้คนอื่นใช้บัยชีธนาคารเป็นเรื่องเสี่ยงมากครับ