สอบถาม เกี่ยวกับ ความรับผิดชอบของผู้ค้ำประกัน การเข้าทำงานของพนักงานที่เข้าทำงานใหม่
บริษัทฯ มีการค้ำประกันการเข้าทำงาน  สำหรับตำแหน่งพนักงานขาย  ซึ่งจะต้องมีการดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกับตัวเงิน และสินค้า  
ข้อสอบถาม
การค้ำประกันการทำงาน   ซึ่งผู้ค้ำประกันจะต้องรับผิดชอบความเสียหายอันเกิดจากการกระทำของพนักงานที่กระทำไว้ เช่น การทุจริตต่อหน้าที่ , การยักยอกทรัพย์ หรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน โดยผู้ค้ำประกันพนักงาน ในการทำงาน จะต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำทุกประเภทเต็ม 100 % ใช่หรือไม่ ในกรณีที่สัญญาค้ำประกัน ระบุ ว่ารับผิดชอบทั้งหมด
กรณี  ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าจากบริษัท แล้วลูกค้า ผิดนัดชำระ ไม่ชำระเงินแก่บริษัท พนักงานขายจะมีหน้าที่รับผิดชอบยอดหนี้ของลูกค้า 100%  หากพนักงานขายไม่ติดตามหนี้ให้ได้ หลบหนี หรือลาออกจากการเป็นพนักงาน จนไม่สามารถติดตามพนักงานมาเพื่อติดตามหนี้ของบริษัท ซึ่งพนักงานขาย ได้เป็นผู้ขายไปมาได้   ผู้ค้ำประกันการทำงาน ที่เป็นคนค้ำประกันพนักงานท่านนี้ จะต้องรับผิดชอบในหนี้สินที่พนักงานขายไม่สามารถติดตามเก็บจากลูกค้าได้ 100%  ใช่หรือไม่  หรือจะต้องรับผิดชอบในขอบเขตแค่ไหนสำหรับ
หนี้ที่พนักงานก่อไว้กับบริษัท หรือหนี้ของลูกค้า ที่พนักงานขายได้ขายไว้แล้วเก็บไม่ได้  ผู้ค้ำประกันจะต้องรับผิดชอบ 100% หรือไม่ ลักษระอย่างไรครับ
ขอขอบคุณ
ฝ่ายบุคคล

เรียน สอบถามค่ะ
เนื่องจากได้ซื้อที่ดินไว้ 1 แปลง ซึ่งการซื่้อ-ขายนี้ เกิดขึ้นสมัยรุ่นแม่ของเค้า และแม่ของเค้าตายไปแล้ว และเราก็ได้ทำการซื้อที่ดินแปลงนั้นไว้ แต่โฉนดยังไม่โอน จึงอยากได้โฉนดเป็นชื่อของตัวเอง อันนี้่ต้องทำอย่างไรคะ (คือ ลูกๆเค้ายังไม่ทราบว่าที่ดินแปลงนี้เป็นของแม่เค้า เพราะเราทำกินมานานมาก แต่เพียงแค่ยังไม่ได้โอนให้ถูกต้อง ให้เป็นชื่อของตัวเอง)

พอดีผ่อนดาวอาคารพานิชไว้ ทำสัญญาไปเมื่อ พ.ค.57 โดยวางเงิยจอง 20,000 ทำสัญญา 100,000 บาท ผ่อนดาวเดือนละ 20,000อีก12 เดือน โครงการยื่นกู้ให้แต่ไม่ผ่านตามตกลงกันถ้ายื่นกู้ไม่ผ่านเขาจะคืนเงินให้ทั้งหมด..แต่นี่ปี 60 แล้วพึ่งจะได้เงินมาแค่ 20,000 เขาผัดมาตลอด...จะทำยังไงได้บ้างค่ะ..อยากได้เงินคืน..??

เคยผิดพลาด มีคนสนิทและไว้ใจเอาเอกสารและสมุดบัญชีไปเผื่อทำการสร้างสเตทเม้นเผื่อที่จะกู้ซื้อบ้าน หลังจากนั้น5ปีมีหมายศาลมาแจ้งว่าเราไปกู้เงินสินเชื่อมา แต่เราไม่เคยติดต่อธนาคารเลย เราจะทำไงได้บ้างค่ะ และตอนนี้เราก็ติดต่อคนที่เอาเอกสารไปไม่ได้เลยจะทำอย่างไรได้บ้าง ช่วยชี้แนะหน่อยเพราะจะต้องขึ้นศาลเดือนหน้าแล้วค่ะ รบกวนด้วย ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

คือแบบนี้ครับ ผมได้สมัครงานที่นึงตามประกาศจากFacebook คือที่โรงเเรมที่หนึ่ง ตำเเหน่ง Front Office เงินเดือน 11,000+ ค่าเช่าบ้าน 1,500
ส่วนService Charge จะได้หลังผ่านโปร เเต่ถ้าทำ Night Shift จะได้เงินเดือนเพิ่มจากเดิมอีก 1,000 บาท ผมจบปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ผมก็รับทราบเงื่อนตามนั้น พอวันไปสมัคร "หัวหน้า" ที่รับผม เป็นคนเขียนเงินเดือนให้ดูว่าถ้าทำหน้าที่นี้จะได้เท่านี้ๆ ซึ่งเอกสารต้องส่งให้ HR อยู่เเล้ว พอทำอาทิตย์เเรกผมทำFront ปกติ มาอาทิตย์หลังผมเปลี่ยนมาเป็น Night Shift เริ่มงานวันที่6 เมษา ตัดเงินเดือนวันที่ 25 เมษา ได้เงินเดือนออกมา 7568 บาท ผมก็เข้าใจว่าทำงานไม่ครบเดือน แต่ เหตุการณ์เกิดขึ้นในเดือนที่สองครับ ผมทำ Night Shift เต็มตัว ทำงานไม่มาสาย ไม่ขาดงาน ปรากฏว่าเงินเดือนออก ผมได้เงินเเค่ 10,588 บาท ซึ่งผมได้สอบถามไปทางหัวหน้า หัวหน้าผมก็ไปสอบถามกับ HR เพราะ HR ที่นี่เป็นคนทำเงินเดือน ซึ่งผมกลับได้คำตอบว่า ฐานเงินเดือนผมได้แค่ 9,300 ซึ่งหัวหน้าผมก็ยืนยันว่าคนเก่าก็ฐานเงินเดือน 12,000 เเล้วผมจะได้ 9,300 + 1,500 บาทได้อย่างไร (ซึ่งเงินที่โอนมาก็ขาดอยู่ดี) ซึ่งทางนี้หัวหน้าขอดูเอกสารการทำบัญชีจากHR แต่ก็ยังเงียบครับ ผมเลยมาฉุกคิดว่าถ้าฐานเงินเดือนผมเเค่ 9,300 แล้วเดือนที่เเล้วผมได้เงินเดือนตกวันเท่าไหร่ นี่คือวิธีคิดครับ 7568 หารด้วย 20(จำนวนวันที่ทำงานเดือนแรก) = 378.4/วัน นั้นถ้าผมทำงานเต็มเดือนหละก็จะได้เป็น 378.4 คูณ30 = 11,352 ถ้าหักค่าเช่าบ้านออกไป 1500 จะ = 9,852 ซึ่งนี่จะเป็นฐานเงินเดือนของเดือนที่เเล้ว เเล้วเดือนที่เเล้วผมไม่ได้เขียนใบโอเลยซักใบ ถ้าฐานผม 9,300 จริงๆ เงินจะมายอดนี้ได้อย่างไร ? ซึ่งตอนนี้ไม่ได้คำตอบอะไรเลยนอกจาก HR บอกว่าหัวหน้าผมเป็นคนรับเป็นคนตกลง HR ไม่ได้เป็นคนตกลง ซึ่งผมยืนยันเลยว่าคนอื่นไม่แผนกได้เงินครบไม่หักค่าประกันเลย อีกอย่างผมกับโรงแรมนี้ไม่มีสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่มีใบสลิปเงินเดือน เพราะทราบมาว่าโรงเเรมยังไม่ได้จดสิทธิบัตร เพราะที่นี่สิทธิบัตรเป็นคอนโด แต่ยืนยันว่าตอนเเจงเงินเดือนหัวหน้าเป็นคนเขียนให้ผมทราบต่อหน้า ซึ่งนั่นถือว่าเป็นพยานได้ไหมครับ ผมจะเรียกร้องอะไรได้ไหมครับ รบกวนพี่ทนายตอบกลับทีนะครับ ขอบคุณครับ

เยี่ยมเลยครับ อยากทราบพอดีเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้

สวัสดีค่ะอยากปรึกษาหน่อยค่ะ
คือนู๋โดนหมายเรียกเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์กับพวก
เรื่องก็คือเมื่อ 1-2 ปีที่แล้วมีพี่ที่รุ้จักกันเค้าให้นู๋หาคนเพื่อเปิดบันชีธนาคารให้ง่ายๆก้อคือ รับจ้างเปิดบช.แหละค่ะ แล้วเมื่อเดือนเม.ษ ที่ผ่านมาเจ้าของบช.โดนหมายเรียกก่อนหน้านู๋ในฐานะชื่อบช.ที่เจ้าทุกข์ได้โอนเงินไปให้แล้วเค้าก้อซัดทอดมาว่านู๋ได้จ้างเค้าเปิดบันชีนู๋ถึงโดนหมายเรียกต่อมา แต่เรื่องที่เค้าไปโกงไรกันมานู๋ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลยนะค่ะ นู๋จ้างคนเปิดบช.ได้บัตรเอทีเอ็มกับสมุดมานู๋ก้อให้เค้าไปหมด แบบนี้นู๋จะโดนจับหรือรับโทษยังไงค่ะ

ผมได้ตั้งกระทู้สอบถามต่อในชื่อ kran kranthanapat อีกกระทู้เพิ่มเติมเนื่องจากผมจำรหัสไม่ได้รบกวนคุณทนายช่วยผมด้วยครับ

พอดีสามีมีเมียน้อยอะค่ะและเปิดตัวว่าเป็นเมียโดยบอกว่าเลิกกับดิฉันแล้วยังมีกาทำร้ายร่างกายดิฉันด้วยจนต้องหนีมาอยู่ที่บ้านแม่เนี่ยค่ะพอฉันขอรถมอไซค์ที่ฉันผ่อนหมดไปแล้วคืนเขาบอกว่าอยากได้ก็ไปฝ้องเอาแล้วดิฉันมีการจดทะเบียนสมรสไว้อะค่ะและยังมีลูกเล็กอีก2คนและยังต้องผ่อนมอไซคอีกคันที่เป็นชื่อเขา หนูจึงมาขอความช่วยเหลือหนูต้องการหย่าและรถของหนูคืนหนูไม่มีเงินเพราะเพิ่งคลอดลูกได้เดือนกว่าหนูต้องเลี้ยงลูกเองทั้ง2คนเลยหนูก็ไม่รู้จะไปพึ่งใครได้ตัวคนเดียวแถมยังโดนสามีทิ้งทั้งแม่ทั้งลูกเลยใครก็ได้ช่วยหนูทีหนูไม่อยากให้ใครมาด่าว่าผัวทิ้งแล้วยังหน้าด้านไม่ปล่อยเขาไปอีก

ถ้าใจเราไม่อยากจดแต่แรกก็อย่าเลยเด๋วตอนหลังจะเสียใจได้ว่าไม่น่าจดเลย

ขอปรึกษาหน่อยนะครับ

พอดีเมือปี 2554 ขายที่ 2 แปรง รวมแล้ว 3 ไร่ 3 งาน
ขายแบบยกแปรงไปครับ พอมาปี2559 เจ้าของคนที่ซื้อที่ดินไป เขาออกร่างวัด แล้วเขาบอกว่าเนื้อที่มันขาด ประมาณ 3 งาน พอมาปีนี้เขาจะเรียกร้องค่าเสียหายของเนื้อที่ ที่ขาดไปหายไป เขาจะสามารถเรียกร้องจากเราได้ไหมครับ และเราจะมีวิธีแก้ปัญหานี้ได้ยังไง ขอคำแนะนำหน่อยนะครับ

ขอบคุณครับ

สู้ๆครับเป็นกำลังใจให้

อ้างจาก: pramook_law ที่ มีนาคม 28, 2017, 07:00:56 AM

อ้างจาก: jaochaihiso ที่ มีนาคม 27, 2017, 06:19:23 AM

สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องขออธิบายกรณีของผมก่อน คือเมื่อปี 2013 ผมได้ออกรถยนต์ป้ายแดง 1 คันและได้ทำการผ่อนกับโตโยต้าลิสซิ่ง ด้วยการใช้เงินดาวน์ 25% ของราคารถยนต์จาก 699,999 บาท ผ่อนมาได้จนถึงเดือนตุลาคมปี 2559 ที่ผ่านมาเนื่องจากสภาพทางการเงินมีปัญหามาแต่ปลายปี 2558 ในการทำงาน จึงทำให้ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้จนถึงปัจจุบันรวม 6 งวด และได้มีหนังสือศาลมาแจ้ง ส่วนรถที่ผมผ่อนยังไม่ถูกยึดเนื่องจากรถคันดังกล่าวผมได้ให้คนรู้จักนำไปใช้งานที่ต่างจังหวัด แต่ผมอยากทำการขอไกล่เกลี่ยกับทางไฟแนนซ์เพื่อขอประนอมหนี้เพื่อขอผ่อนต่อผมจะสามารถขอร้องต่อศาลที่ผมถูกไฟแนนซ์ยื่นต่อศาลในกรณีนี้ได้หรือไม่หรือต้องขอร้องต่อศาลได้อย่างไรบ้างผมจำดำเนินการได้อย่างไรบ้างครับถ้าผ่อนต่อไม่ได้ผมจะขอศาลให้ไกล่เกลี่ยชำระเงินที่ปลอดดอกเบี้ยแล้วผมสามารถรับไหวได้หรือไม่ครับรบกวนคุณทนายช่วยแนะนำด้วยครับผมไม่มีเงินที่จะดำเนินการจ้างทนายครับตอนนี้ผมเดือดร้อนด้านการเงินจริง ๆ ครับ

เป็นคดีเช่าซื้อธรรมดาครับ ถ้าคุณไม่ยื่นคำให้การสู้คดี ผู้ให้เช่าซื้อเขาไม่ยอมไกล่เกลี่ยแน่นอน ลองติดต่อมาได้ครับ

ขอยคุณครับเดี๋ยวผมลองขอร้องไกล่เกลี่ยดูถ้าไม่ได้ยังไงผมจะติดต่อขอความช่วยเหลืออีกครั้งครับ

อ้างจาก: pramook_law ที่ มีนาคม 28, 2017, 07:00:56 AM

อ้างจาก: jaochaihiso ที่ มีนาคม 27, 2017, 06:19:23 AM

สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องขออธิบายกรณีของผมก่อน คือเมื่อปี 2013 ผมได้ออกรถยนต์ป้ายแดง 1 คันและได้ทำการผ่อนกับโตโยต้าลิสซิ่ง ด้วยการใช้เงินดาวน์ 25% ของราคารถยนต์จาก 699,999 บาท ผ่อนมาได้จนถึงเดือนตุลาคมปี 2559 ที่ผ่านมาเนื่องจากสภาพทางการเงินมีปัญหามาแต่ปลายปี 2558 ในการทำงาน จึงทำให้ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้จนถึงปัจจุบันรวม 6 งวด และได้มีหนังสือศาลมาแจ้ง ส่วนรถที่ผมผ่อนยังไม่ถูกยึดเนื่องจากรถคันดังกล่าวผมได้ให้คนรู้จักนำไปใช้งานที่ต่างจังหวัด แต่ผมอยากทำการขอไกล่เกลี่ยกับทางไฟแนนซ์เพื่อขอประนอมหนี้เพื่อขอผ่อนต่อผมจะสามารถขอร้องต่อศาลที่ผมถูกไฟแนนซ์ยื่นต่อศาลในกรณีนี้ได้หรือไม่หรือต้องขอร้องต่อศาลได้อย่างไรบ้างผมจำดำเนินการได้อย่างไรบ้างครับถ้าผ่อนต่อไม่ได้ผมจะขอศาลให้ไกล่เกลี่ยชำระเงินที่ปลอดดอกเบี้ยแล้วผมสามารถรับไหวได้หรือไม่ครับรบกวนคุณทนายช่วยแนะนำด้วยครับผมไม่มีเงินที่จะดำเนินการจ้างทนายครับตอนนี้ผมเดือดร้อนด้านการเงินจริง ๆ ครับ

เป็นคดีเช่าซื้อธรรมดาครับ ถ้าคุณไม่ยื่นคำให้การสู้คดี ผู้ให้เช่าซื้อเขาไม่ยอมไกล่เกลี่ยแน่นอน ลองติดต่อมาได้ครับ

ดิฉันไปเป็นผู้ค้ำประกันการเช่าซื้อรถยนต์ให้เพื่อนแฟนค่ะ (สัญญาทำเมื่อ 20/05.2554) ปัญหาแรกที่เกิดคือ หลังจากนั้นไม่กี่เดือนดิฉันได้รับจดหมายจากทางธนชาตว่ามีการผิดสัญญาเช่าซื้อ พอดิฉันโทรไปสอบถามกับทางธนาคารธนชาต จึงทราบว่ารถคันนี้มีการนำรถยนต์ไปขนยาแก้ไอซึ่งเป็นสารตั้งต้นยาเสพติด และถูกจับที่สงขลา ซึงบ้านผู้เช่าซื้ออยู่ที่จังหวัดนั้น ทางธนชาตมีจดหมายแจ้งยกเลิกสัญญาเช่าซื้อมาถึงดิฉันเมื่อวันที่ 28/07/2554 ดิฉันก็โล่งใจว่าทุกอย่างสิ้นสุดลงแล้ว เพราะที่สอบถามไปตอนนั้นคือรถถูกตำรวจอายัดไว้ ก็ควรจะสิ้นสุดเพราะทางธนาคารต้องเป็นผู้ตามเรื่องเอารถคืนจากทางตำรวจ แต่เรื่องไม่จบเพราะวันที่ 29/12/2555 มีจดหมายแจ้งเตือยให้ชำระค่างวดรถ พอโทรไปสอบถามถึงทราบว่าผู้เช่าซื้อไปเจรจากับทางแบงค์ และมีการจ่ายเงินก้อนบางอย่างเพื่อให้สัญญาเดินต่อไป โดยที่ดิฉันซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันไม่ทราบเรื่องด้วยเลย และก็ค้างชำระค่างวดกันมาเป็นระยะๆ (ทราบจากจดหมายที่ส่งมาตามค่างวด) จนในที่สุดทางธนชาตตามยึดรถคืนมาขายได้ และมีจดหมายแจ้งส่วนต่างที่ต้องชำระ 169.948.50 บาท ผู้เช่าซื้อก็เพิกเฉยในทำนองไม่มี ไม่หน ไม่จ่าย จนล่าสุด วันที่ 14/03/2560 ทางบริษัทบริหารสินทรัพย์ ไนท แคปิตอล มีจดหมายมาถึงดิฉันว่า ธนชาตโดนสิทธิการเรียกร้องตามสัญญาเช่าซื้อให้กับทางนี้แล้ว และแจ้งให้ชำะหนี้ภายใน 20 วัน มิฉะนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่ทราบว่าในกรณีนี้ ดิฉันยังต้องร่วมรับผิดด้วยหรือไม่คะ

สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องขออธิบายกรณีของผมก่อน คือเมื่อปี 2013 ผมได้ออกรถยนต์ป้ายแดง 1 คันและได้ทำการผ่อนกับโตโยต้าลิสซิ่ง ด้วยการใช้เงินดาวน์ 25% ของราคารถยนต์จาก 699,999 บาท ผ่อนมาได้จนถึงเดือนตุลาคมปี 2559 ที่ผ่านมาเนื่องจากสภาพทางการเงินมีปัญหามาแต่ปลายปี 2558 ในการทำงาน จึงทำให้ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้จนถึงปัจจุบันรวม 6 งวด และได้มีหนังสือศาลมาแจ้ง ส่วนรถที่ผมผ่อนยังไม่ถูกยึดเนื่องจากรถคันดังกล่าวผมได้ให้คนรู้จักนำไปใช้งานที่ต่างจังหวัด แต่ผมอยากทำการขอไกล่เกลี่ยกับทางไฟแนนซ์เพื่อขอประนอมหนี้เพื่อขอผ่อนต่อผมจะสามารถขอร้องต่อศาลที่ผมถูกไฟแนนซ์ยื่นต่อศาลในกรณีนี้ได้หรือไม่หรือต้องขอร้องต่อศาลได้อย่างไรบ้างผมจำดำเนินการได้อย่างไรบ้างครับถ้าผ่อนต่อไม่ได้ผมจะขอศาลให้ไกล่เกลี่ยชำระเงินที่ปลอดดอกเบี้ยแล้วผมสามารถรับไหวได้หรือไม่ครับรบกวนคุณทนายช่วยแนะนำด้วยครับผมไม่มีเงินที่จะดำเนินการจ้างทนายครับตอนนี้ผมเดือดร้อนด้านการเงินจริง ๆ ครับ