ผมทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งเป็นเวลาหลายปี อยู่มาบริษัทต้องการขยายกิจการจะมีการซื้อที่ดินเพิ่มจากเจ้าที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ซึ่งเมื่อออกเอกสารสิทธิ์(ภ.บ.ท.) ที่ดินแบบนี้จะโอนซื้อขายไม่ได้ใน 10 ปี โดยที่ดินดังกล่าวออกในซื่อบริษัทไม่ได้ เจ้าของในขณะนั้นจึงใช้ชื่อผมถือแทน เมื่อถึงวันที่ออกโฉนด โฉนดนั้นจึงมีชื่อผมเป็นเจ้าของ เวลาผ่านมาได้ 2 ปี เจ้าของบริษัทเสียชิวิตลง เจ้าของคนใหม่เข้ามาและมีการตรวจสอบทรัพย์สินบริษัท ได้พบว่าที่ดินดังกล่าว จึงส่งหนังสือมาถึงผมให้เข้ามาชี้แจง ซึ่งตัวผมเข้าไปชี้แจงตามที่กล่าวข้างต้นโดยโฉนดดังกล่าวก็อยู่ในเซฟที่บริษัท เจ้าของคนใหม่ให้ผมโอนคืนบริษัท ซึ่งผมได้ชี้แจงว่าที่ดินผืนดังกล่าวซื้อขายโอนเปลี่ยนมาไม่ได้ก่อน 10 ปี ทางเจ้าของใหม่ไม่ยอมได้ออกคำสั่งหนังสือหาผมคือ
1.สั่งพักงาน 7วัน
2.สั่งย้ายงานโดยไม่มีการชี้แจง
3.อาญัติเงินโบนัสทั้งหมดโดยไม่ชี้แจง
4.ทำหนังสือกล่าวโทษด้วยข้อหา ฉ้อโกงบริษัท(ติดประกาศในบริษัท) บังคับให้เขียนใบลาออก
โดยบริษัทได้มีข้อเสนอให้กับผมในขณะที่สั่งพักงานให้ผมเข้ามาทำหนังโอนคืนบริษัทล่วงหน้า แล้วจะไม่อนุมัติใบลาออก ซึ่งผมยอมเข้าไปเซ็นต์ให้แต่บริษัทให้ครอบครัวผมต้องมาเซ็นต์ทุกคน เมื่อเข้าไปที่ออฟฟิต กับให้ผมเซ็นต์พินัยกรรมยกที่ดินให้บริษัท ผมจึงไม่ยอมเซ็นต์ ผมจึงร่างสัญญาซื้อขายโดยที่ช่องราคาเขียนเป็น ยกให้ ผมจึงไม่ยอมเซ็นต์บริษัทจึงร่างใหม่เป็นสัญญาจะซื้อจะขายและสัญญาซื้อขาย เป็นจำนวนเงิน 6 ล้านบาท(ไม่มีตัวเงินจริง) และทำหนังสือขอเข้าใช้ที่ดินได้กล่าว(ทั้งหมดทำกันที่ออฟฟิตบริษัท) เมื่อเซ็นต์เสร็จทางเจ้าของบอกจะยกเลิกใบลาออกผม แต่พอรุ่งเช้าผมเข้าทำงานปกติ เจ้าของเรียกเข้าผม และอนุมัติใบลาออกผม ชีวิตผมจบ พังครับ
เรื่องดำเนินมา ครบ 10 ปี (โดยที่ผมหางานไม่ได้ด้วยสังคมงานของผมแคบผู้ชำนาญมีอยู่ไม่มากแต่ผมหางานไม่ได้เลย ด้วยที่ข้อหาฉ้อโกลบริษัทนั้นร้ายแรงมาก) อยู่ดีๆ ก็ให้ทนายตัวแทนบริษัทโทรข่มขู่จะแจ้งความถ้าไม่ส่งสำเนาบัตรประชาชนให้บริษัท ผมขอถามทนายครับ
1. ผมต้องทำตามที่เขาสั่งหรือไม่ ถ้าไม่ทำจะถูกแจ้งความหรือไม่
2.ในสัญญาซื้อขายที่ระบุจำนวนเงินผมต้องเสียภาษีเงินได้หรือไม่ เมื่อผมไม่เคยได้รับเงินจำนวนดังกล่าวเลย
3.มีทางเรียกความเป็นทำให้กับตัวเองหรือเปล่าครับ เรื่องผ่านมานานมากแล้ว
2 ตอบ
3813 อ่าน
