สำนักงานทนายความ

สอบถามเรื่องการแย่งการครอบครอง ที่ดิน นส.3

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Apinyaya

 :'(
รบกวนสอบถามค่ะ


แม่ดิชั้นมีที่ดินในตัวอำเภอแปลงหนึ่ง เอกสารสิทธิ์เป็นโฉนด โดยมีชื่อแม่เป็นเจ้าของที่ดิน
และในปี 2545 แม่ตัดสินใจสร้างอาคารพาณิชย์บนที่แปลงนั้น และเปิดเป็นร้านขายกระจกอลูมิเนียม โดยมีพี่สาวของดิชั้นเป็นคนควบคุมดูแลกิจการ และได้ใช้ นามสกุลของครอบครัว ของเราตั้งเป็นชืีอร้าน
ในปีนั้นเองเราเริ่มอยากขยายร้านเพราะของในร้านเริ่มเยอะ และไม่มีพื้นที่สำหรับคนงานทำงาน (ตัดกระจก ตัดเหล็ก ประกอบกระจก) เราจึงอยากซื้อที่ดินผืนที่อยู่ติดกับร้าน แต่เราตามหาเจ้าของไม่พบ สอบถามคนแถวนั้นก็ไม่มีใครทราบ ลองไปตรวจสอบกับที่ดินประจำอำเภอ
ภาพแผนที่ทางอากาศ ก็แสดงแค่เพียงว่าที่ดินมีการครอบครอง แต่กลับไม่ปรากฎรายชื่อผู้ครอบครอง (ในกรณีนี้ดิชั้นเดาว่า น่าจะเป็นเอกสาร นส.3 ใช่หรือไม่? )

จากนั้นเราจึงตัดสินใจถมที่ดินผืนนั้น (คิดว่าถ้าทำงานถมขนาดนี้ เจ้าของที่ดินต้องปรากฎตัวออกมาแน่ๆๆๆ แต่ก็ไม่มีใครแสดงตัวออกมา เราจึงได้ตีอหลังคาออกมาจากตัวตึกของเรา ต่อเข้ามาบนที่ดินแปลงนี้ และได้ใช้เป็นพื้นที่สำหรับคนงาน ทำงาน
ล่วงเลยมาหลายปี ก็ยังไม่เคยมีเจ้าของออกมาแสดงตัว

จนกระทั่งในปี 2552 พี่สาวของดิชั้นได้แต่งงาน (โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส) และสามีของพี่สาวขอเข้ามาร่วมดูแลกิจการ และย้ายมาอาศัยร่วมกับพี่สาวของดิชั้น แม่เห็นว่าเป็นลูกเขย จึงอนุญาติ แต่พอผู้ชายคนนี้เข้ามาเค้าได้ขอทำการเปลี่ยนชื่อร้าน เราก็ไม่ว่าอะไร เพราะคิดว่าไม่ได้มีอะไรเสียหาย ต่อมาก็ได้เริ่มมีการปรับปรุงร้าน โดยที่ดินตรงข้างๆๆ(ที่ดิชั้นบอกว่าหาเจ้าของไม่เจอ) ได้มีการใช้เหล็กสร้างเป็นโกดัง ให้ดูมั่นคงยิ่งขึ้น โดยเงินที่สร้างก็นับได้ว่าเป็นเงินของเราด้วย คือตอนปรับปรุงนี่คือเงินส่วนหนึ่งพี่สาวกับแม่ช่วยกันออก และอีกส่วนก็เป็นเงินของพี่เขยด้วย

ต่อมาเมื่อ ปลาย ธันวาคม 2555 พี่สาวกับพี่เขยเริ่มมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกัน และเริ่มตัดสินใจอจากแยกทาง พี่สาวเสียใจหอบเสื้อผ้ามานอนบ้านดิชั้นอีกหลัง ซึ่งบ้านหลังนี้ดิชั้นอาศัยอยู่กับพ่อแม่ พอแม่เห็นว่าทั้งสองอยากจะแยกทางกัน แม่จึงได้เข้าไปเคลียร์ พี่เขยบอกกับแม่ว่าขอเวลา 1-2 เดือน ให้เค้าตั้งหลักก่อนแล้วจะรีบย้ายออกไป เรากะว่าถ้าพี่เขยย้ายออก แา่จะให้ดิชั้นกับพี่สาวเข้าไปเปลี่ยนเป็นเปิดร้านขายสังฆทาน แต่พอเวลาล่วงเลยมา 3 เดือน เราก็ไม่เห็นพี่เขยมีทีท่าว่าจะย้ายออก ดิชั้นจึงตัดสินใจเข้าไปคุย เค้าก็ถ่วงเวลามาเรื่อยๆๆ เราก็ยอมเพราะไม่อยากมีปากเสียงรุนแรง ทั้งๆที่เรามีสิทธิ์ที่จะขับไล่เค้าให้ออกทันที เพราะเค้าไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับพี่สาว และตรงนั้นก็ขื่อแม่ดิชั้นเป็นเจ้าของ และพี่สาวก็ไม่ได้มีบุตรกับเค้า แต่เราก็ยอมเพราะไม่อยากมีปากเสียงรุนแรง เค้าบอกว่าเค้ากำลังทำเรื่องกู้แบงค์ซื้อที่อีกแปลงตอนนี้แบงค์อนุมัติแล้ว ขอเวลาเค้าสร้างตึกใหม่ให้เสร็จแล้วเค้าจะย้ายออกทันที เราก็เชื่อ จนกระทั่งผ่านมาเกือบ 8 เดือน(เมื่อต้นเดือนสิงหาคม นี้เอง) ดิชั้นสืบทราบว่าเค้ายังไม่แม้แต่ลงมือสร้างตึกที่เค้าบอกว่าเค้าจะสร้าง ดิชั้นจึงไปถามเค้าว่าขอคำตอบที่แน่นอนและชัดเจนได้มั้ยว่าจะย้ายตอนไหน เพราะรอมานานมากแล้ว เค้าบอกยังไม่มีกำหนด ดิชั้นจึงบอกว่าไม่มีกำหนดไม่ได้ เพราะดิชั้นรอมานานมากแล้วดิชั้นจะเข้ามาทำอะไรก็ไม่ได้เริ่มซักที จะให้รอแบบไม่มีกำหนดแบบนี้ไม่ได้ คุณต้องระบุมาว่าภายใน 1 เดือน หรือ 2 เดือน อะไรก็ว่าไปสิ
2-3 วันต่อมา เค้าโทรมาบอกว่า งั้นจะย้ายภายในสิ้นเดือนนี้ เพราะตอนนี้เค้าได้ร้านใหม่เค้าได้ไปต้ดต่อจะทำสัญญาเช่าแล้ว
เราก็โอเค โล่งอก

แต่เมื่อวันที่ 3 วันที่แล้ว (25 สิงหาคม 2556) ดิชั้นเข้าไปดูที่ร้านปรากฎว่า เค้าทำการให้ช่าง มาสร้างที่กั้นระหว่างตึก(ส่วนที่เป็นโฉนดชื่อแม่) และส่วนที่เป็นที่ดินที่บอกว่าหาเจ้าของไม่เจอ ตอนดิชั้นเข้าไป ช่างก็กำลังทำการอ๊อกเหล็ก กำลังทำประตูปิดกั้น ดิชั้นจึบถามเค้าว่า นี่จะทำอะไร เค้าบอกว่าสร้างที่กั้น เค้าจะเอาที่ตรบนี้ไว้เก็บของ ดิชั้นบอกทำแบบนี้ไม่ได้นะ เค้าก็ตอกกลับดิชั้นมาว่า คุณมีสิทธิ์อะไรมาไล่ผม ผมไม่ไปไหน ผมจะเอาตรงนี้ คุณมีสิทธิ์ อะไร

ตอนนี้ดิชั้นหน้าชาและมึนตึบ... รู้สึกว่าโดนหักหลังแบบ งง งง
คือดิชั้นเข้าใจค่ะว่าที่ตรงนั้นหาเจ้าของไม่เจอ แต่ครอบครัวดิชั้นได้ทำการครอบครองโดยสงบมาเป็นสิบปี แต่บุคคลนี้ขอเข้ามาเป็นผู้อาศัย พอเค้าทะเลาะกับพี่สาว มันแย่ตรงที่พี่สาวดิชั้นดันเสียใจดันหอบเสื้อผ้าออกจากร้านมานอนบ้านอีกหลัง แต่พวกข้าวของตู้เย็น ที่นอน แอร์ ทีวี หมอน ทุกสิ่งอย่างไม่ได้ขนมาหรอกนะคะ

ดิชั้นได้อ่านข้อกฎหมายว่าถ้าที่ดินเป็นโฉนด ถ้าเราครอบครองโดยสงบเป็นเวลา 10 ปี เราสามารถครอบครองโดยปรปักษ์
แต่ดิชั้นสันนิฐานว่าที่แปลงนี้น่าจะ เป็นดอกสาร นส.3 ซึ่งไม่สามารถครอบครองปรปักษ์ได้ ทำได้เพียงหากครอบครองโดยสงบเป็นเวลา 1 ปี สามารถแย่งสิทธิ์การครอบครองได้ อันนี้ถือว่าพี่เขยดิชั้นได้แย่งสิทธิ์การครอบครองไปแล้วเหรอคะ นับวันที่พี่สาวทะเลาะกับพี่เขย ที่พี่สาวหอบผ้ามานอนบ้านอีกหลังจากวันนั้นถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 8 เดือนเต็ม แล้ว ซึ่งยังไม่ถึงปี และตลอดระยะเวลาแปดเดือนที่ผ่านมาพวกดิชั้นก็ได้แวะเข้าไปดูเรื่อยๆๆๆ ไม่ได้นิ่งเฉยแต่อย่างได

แต่ตอนนี้มึนตึบค่ะ เพราะพี่เขยอ้างว่าตอนที่ปรับปรุบร้านเป็นเงินของเค้า ความจริงมันไม่ใช่นะคะก็ช่วยช่วยกันออกอ่ะค่ะเงินแม่ พี่สาวก็ช่วยออก แต่เค้าเล่นมาจะยึดเอาแบบนี้ ดิชั้นจะทำอะไรได้หล่ะค่ะ มึนตึบค่ะ รู้สึกแย่มากค่ะ รู้สึกโดนเอาเปรียบ รู้สึกโดนหักหลังแบบบอกไม่ถูกค่ะ

ตอนนี้ดิชั้นมีความคิดว่าจะกระทุ้งหาเจ้าของที่ตัวจริงให้ได้ แบบว่าดิชั้นคงทำใจให้ผู้ชายคนนี้มาอยู่ลอยหน้าลอยตา อยู่ข้างร้านดิชั้น ถ้าดิชั้นกลับไปเปิดร้านขายสังฆทานตามที่วางแพลนไว้ ผู้ชายคนนี้ก็คงจะลอยหน้าลอยตาอยู่ข้างๆๆ ดิชั้นคงเฉยไม่ได้หรอกค่ะ ดิชั้นสงสัยว่าถ้าดิชั้นฟ้อง แล้วหากหาเจ้าของที่ดินตัวจริงไม่เจอ ไม่มีใครออกมาแสดงตน แบบนี้ดิชั้นจะสามารถสู้กับพี่เขยได้มั้ยคะ เพราะถ้าจะให้ดิชั้นเข้าไปขนของเค้าออกใช้ความรุนแรง ดิชั้นคงทำไม่ได้ ดิชั้นกะจะใช้กฎหมายเข้าสู้
ถ้ามีเจ้าของปรากฎตัวออกมา ก็ยินดีคืนเจ้าของเค้าไปค่ะ แต่ถ้าไม่มีเจ้าของแสดงตนหล่ะค่ะ ดิชั้นและครอบครัวมีโอกาสชนะพี่เขยมั้ยคะ

ขอบคุณค่ะ

ทนายศุภกร/085-6259445

Re: สอบถามเรื่องการแย่งการครอบครอง ที่ดิน นส.3
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2013, 06:32:08 PM »
ตอบ_ทนายแนะนำสั้นๆ ไม่ได้ปรับข้อเท็จริงเฉพาะเรื่อง คือ แจ้งความข้อหาบุกรุกไว้ก่อนเบื้องต้น / ทนายศุภกร085-6259445

 

ด้วยฟังค์ชั่น ตอบด่วน คุณสามารถใช้โค๊ดและ เครื่องหมายแสดงอารมณ์ได้ เหมือนการตั้งกระทู้ธรรมดา แต่สามารถทำได้สะดวกกว่า

ชื่อ: อีเมล์:
Verification:
พิมพ์ชื่อประเทศของเราลงไป ::