ข้อความโดย: Preecha Yokthongwattana
« เมื่อ: เมษายน 22, 2013, 04:05:03 PM »ข้อเท็จจริงที่แจ้งมาเข้าลักษณะเป็นสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินครับ
ตอบ
1. การจะบอกว่าโกงไม่โกงคงไม่ถูกต้องครับ แต่ถามว่ามีการผิดสัญญาหรือยัง ก็ต้องตอบว่า สัญญาอาจจะฟังดูหละหลวมไปสักหน่อยครับ เขาอาจยังไม่ผิดสัญญาก็ได้ครับ
2. การแบ่งแยกกับการขายคงไม่เกี่ยวกันครับ แต่ถ้าแปลงที่เราจะซื้ออยู่ระหว่างรังวัดแบ่งแยก ก็อาจจะเป็นเหตุให้ยังไม่สามารถทำนิติกรรมโอนขายได้ครับ เนื่องจากอาจต้องรอโฉนดฉบับให้ให้แล้วเสร็จ แต่ขั้นตอนการรังวัด หากยื่นเรื่องรังวัดแล้ว ใช้เวลาไม่น่าจะเกิน 3 เดือนนะครับ
3. ก่อนจะฟ้อง คุณควรมีหนังสือแจ้งและนัด (ส่งจดหมายลงทะเบียนตอบรับ) ให้ผู้จะขายไปทำการโอนขายที่ดิน พร้อมรับชำระเงินส่วนที่เหลือตามสัญญา โดยนัดไปดำเนินการที่สำนักงานที่ดินที่ตั้งทรัพย์นะครับ พอถึงวันนัด คุณก็ไปรอ (อย่าลืมเตรียมเงินไปด้วย) แล้วถ้าหากผู้ขายเขาไม่มา อย่างนี้จึงจะเรียกว่าผิดนัดผิดสัญญาครับ คุณก็ฟ้องคดีได้เลยครับ ฟ้องขอบังคับให้โอน หรือเรียกเงินคืนทั้งหมดพร้อมค่าเสียหายครับ
ตอบ
1. การจะบอกว่าโกงไม่โกงคงไม่ถูกต้องครับ แต่ถามว่ามีการผิดสัญญาหรือยัง ก็ต้องตอบว่า สัญญาอาจจะฟังดูหละหลวมไปสักหน่อยครับ เขาอาจยังไม่ผิดสัญญาก็ได้ครับ
2. การแบ่งแยกกับการขายคงไม่เกี่ยวกันครับ แต่ถ้าแปลงที่เราจะซื้ออยู่ระหว่างรังวัดแบ่งแยก ก็อาจจะเป็นเหตุให้ยังไม่สามารถทำนิติกรรมโอนขายได้ครับ เนื่องจากอาจต้องรอโฉนดฉบับให้ให้แล้วเสร็จ แต่ขั้นตอนการรังวัด หากยื่นเรื่องรังวัดแล้ว ใช้เวลาไม่น่าจะเกิน 3 เดือนนะครับ
3. ก่อนจะฟ้อง คุณควรมีหนังสือแจ้งและนัด (ส่งจดหมายลงทะเบียนตอบรับ) ให้ผู้จะขายไปทำการโอนขายที่ดิน พร้อมรับชำระเงินส่วนที่เหลือตามสัญญา โดยนัดไปดำเนินการที่สำนักงานที่ดินที่ตั้งทรัพย์นะครับ พอถึงวันนัด คุณก็ไปรอ (อย่าลืมเตรียมเงินไปด้วย) แล้วถ้าหากผู้ขายเขาไม่มา อย่างนี้จึงจะเรียกว่าผิดนัดผิดสัญญาครับ คุณก็ฟ้องคดีได้เลยครับ ฟ้องขอบังคับให้โอน หรือเรียกเงินคืนทั้งหมดพร้อมค่าเสียหายครับ