ข้อความโดย: ทนายศุภกร/085-6259445
« เมื่อ: มิถุนายน 04, 2013, 07:36:35 AM »ตอบ...เมื่อประมาณ15ปีที่แล้ว(พศ.2541)พ่อของปูและน้องของพ่ออีก2คนได้ให้บุคคลอื่นมาเช่าที่ดินโดยมีหนังสือสัญญาเช่าแต่ไม่ได้เก็บค่าเช่าแต่ระบุแค่เพียงว่าเช่าเพื่ออาศัยและดูแลเท่านั้นหลังจากปี43สัญญาขาด(สัญญาเช่า 3 ปี)และไม่ได้ต่อสัญญาใหม่พ่อและน้องก็ได้เสียชีวิต
ประเด็นที่ 1. จากนั้นปี52บุคคลที่เช่าได้นำดินแปลงนี้ไปขายให้บุคคลที่3โดยมีแค่หนังสือสัญญาซื้อขายทั่วไป ปี54ผู้ที่มีสิทธิทั้ง3ก็ได้แจ้งความจำนงขอเป็นผู้จัดการมรดกเป็นที่เรียบร้อย ทนายเห็นว่า เป็นเรื่องอาญาและแพ่งผู้ถามต้องรีบดำเนินการ
ประเด็นที่ 2. ในปี54ผู้จัดการมรดกได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้มีการบุกรุกพื้นที่และถูกแอบขายให้บุคคลอื่น ทนายเห็นว่า ส่วนนี้ผู้ถามต้องรวบรวข้อมูลข้อเท็จจริงให้พร้อมเพื่อประกอบเรื่องเข้ากับข้อ 1
ประเด็นที่ 3. ที่ดินเป็นดินนส3ก ทนายเห็นว่า ที่ดินประเภทนี้มีเอกสารรับรองจากราชการสามารถตรวจดูได้
ประเด็นที่ 4. ผู้ถามจะเข้าไปในเรื่องนี้(คดี)ได้ในบางเรื่องบางคดีเพื่อเรียกร้องสิทธิกลับคืนมาต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย/ทนายศุภกร085-6259445
ประเด็นที่ 1. จากนั้นปี52บุคคลที่เช่าได้นำดินแปลงนี้ไปขายให้บุคคลที่3โดยมีแค่หนังสือสัญญาซื้อขายทั่วไป ปี54ผู้ที่มีสิทธิทั้ง3ก็ได้แจ้งความจำนงขอเป็นผู้จัดการมรดกเป็นที่เรียบร้อย ทนายเห็นว่า เป็นเรื่องอาญาและแพ่งผู้ถามต้องรีบดำเนินการ
ประเด็นที่ 2. ในปี54ผู้จัดการมรดกได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้มีการบุกรุกพื้นที่และถูกแอบขายให้บุคคลอื่น ทนายเห็นว่า ส่วนนี้ผู้ถามต้องรวบรวข้อมูลข้อเท็จจริงให้พร้อมเพื่อประกอบเรื่องเข้ากับข้อ 1
ประเด็นที่ 3. ที่ดินเป็นดินนส3ก ทนายเห็นว่า ที่ดินประเภทนี้มีเอกสารรับรองจากราชการสามารถตรวจดูได้
ประเด็นที่ 4. ผู้ถามจะเข้าไปในเรื่องนี้(คดี)ได้ในบางเรื่องบางคดีเพื่อเรียกร้องสิทธิกลับคืนมาต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย/ทนายศุภกร085-6259445