สำนักงานทนายความ

แสดงกระทู้

ส่วนนี้จะช่วยให้คุณสามารถดูกระทู้ทั้งหมดสมาชิกนี้ โปรดทราบว่าคุณสามารถเห็นเฉพาะกระทู้ในพื้นที่ที่คุณเข้าถึงในขณะนี้


ข้อความ - Preecha Yokthongwattana

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 15
31
ห้างหุ้นส่วน คือ บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ตกลงร่วมมือกัน เพื่อกระทำกิจการร่วมกัน โดยมุ่งหวังจะแบ่งกำไรที่ได้รับจากกิจการนั้น ซึ่งห้างหุ้นส่วนจำแนกเป็น 2 ประเภท กล่าวคือ ห้างหุ้นส่วนสามัญ และห้างหุ้นส่วนจำกัด โดยห้างหุ้นส่วนสามัญ ผู้เป็นหุ้นส่วนหมดทุกคนต้องรับผิดร่วมกันในหนี้ของห้างโดยไม่มีจำกัด ส่วนห้างหุ้นส่วนจำกัด ผู้เป็นหุ้นส่วนจำแนกเป็น2 ประเภท คือ จำพวกจำกัดความรับผิดเพียงไม่เกินจำนวนเงินที่ตนรับจะลงหุ้น และจำพวกรับผิดร่วมกันในหนี้ของห้างโดยไม่จำกัดจำนวน

บริษัทจำกัด คือ บริษัทประเภทตั้งขึ้นด้วยแบ่งทุนเป็นหุ้นมีมูลค่าเท่ากันๆ กัน โดยผู้ถือหุ้นรับผิดจำกัดเพียงไม่เกินจำนวนเงินที่ตนยังส่งใช้ไม่ครบมูลค่าของหุ้นที่ตนถือ ซึ่งบริษัทจำกัดมีผู้เริ่มก่อการอย่างน้อย 3 คน ซึ่งเป็นผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นตั้งแต่เริ่มจัดตั้งบริษัท

ในส่วนของ หุ้นส่วนในบริษัทนั้น หมายถึงบุคคลที่มาลงหุ้นร่วมกันในบริษัท อาทิเช่น นำเงินมาซื้อหุ้นของบริษัท ดดยอาจเป็นกรรมการบริษัท หรือเป็นเพียงผู้ถือหุ้นของบริษัทก็ได้แล้วแต่จะตกลงกันครับ

32
การฟ้อง หรือการใช้สิทธิทางศาลเพื่อขอให้มีอำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว ทั้งที่ยังไม่ได้หย่าขาดจากสามี สามารถทำได้ครับ แต่มีข้อที่พึงจะต้องพิจารณาด้วยนะครับ

1. สาเหตุหรือความจำเป็นในการที่จะต้องปกครองบุตรแต่เพียงฝ่ายเดียว
2. สามีมีปัญหาประการใดที่ไม่สามารถจะเป็นใช้อำนาจผู้ปกครองได้ หรือไม่สามารถเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองที่ดีได้

ข้อมูลเหล่านี้จะต้องถูกนำไปใช้ประกอบการสืบพยานในชั้นศาลด้วยครับ

33
จากกรณีร้านกาแฟแห่งหนึ่งเรียกเก็บค่านั่งในร้านชั่วโมงละ 1,000 บาท นอกเหนือจากค่ากาแฟ ตามที่เป็นข่าวโด่งดังในโซเซียล ขอตอบตามหลักกฎหมายง่ายๆนะครับ
1. ให้ดูเบื้องต้นก่อนว่าเป็นสัญญาอะไร กรณีนี้ ค่าบริการนั่งในร้าน ที่ไม่ใช่ค่าอาหาร แม้จะเขียนว่า Open food ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นการเรียกเก็บเงินตามสัญญาซื้อขาย แต่สัญญาดังกล่าว มีลักษณะเป็นการเรียกเก็บเงินตามระยะเวลาที่ลูกค้าเข้าใช้บริการในร้าน จึงถือได้ว่า เข้าข่ายเป็นสัญญาบริการชนิดหนึ่ง (ภาษากฎหมายเรียกว่า ?สัญญาไม่มีชื่อ?) คล้ายๆกับสัญญาบริการที่จอดรถ
2. เงินที่เรียกเก็บจึงเป็น ?ค่าบริการ? ไม่ใช่ค่าสินค้า
3. ส่วนร้านค้าจะมีสิทธิเรียกเก็บหรือไม่ ก็คงต้องวินิจฉัยจากจุดเริ่มต้นของสัญญาครับ หลักง่ายๆว่า บ่อเกิดของสัญญา คือ คำเสนอ คำสนอง ต้องตรงกัน แปลว่า ผู้ให้บริการได้เสนอราคาแล้ว และผู้ใช้บริการได้สนองรับแล้ว กรณีปัญหาที่เกิดขึ้น จึงต้องตีความให้ชัดเสียก่อนว่า เอกสารใบแจ้งราคา ใบเล็กๆ ตามที่ผู้ตั้งกระทู้บอกเล่านั้น ถือเป็นคำเสนอหรือไม่ ซึ่งในกรณีนี้ ผู้ให้บริการ เปิดดำเนินการธุรกิจร้านกาแฟ แบบมีโต๊ะนั่ง จึงน่าเชื่อว่า ราคาสินค้าได้รวมบริการโต๊ะนั่งทานไว้ด้วยแล้ว ดังนั้น การตั้งป้ายเสนอราคาค่าบริการใช้สถานที่ หากผู้ให้บริการประสงค์จะเรียกเก็บจริง จะต้องมีรายการแสดงที่ชัดแจ้งครับ การทำใบแจ้งราคาขนาดเล็ก จึงไม่ถือเป็นคำเสนอครับ การที่ลูกค้านั่งทานกาแฟ จึงแปลความได้ว่า ลูกค้านั่งทานกาแฟตามสัญญาซื้อขายเท่านั้นครับ ไม่ได้แปลความว่า ลูกค้าได้แสดงเจตนาสนองรับคำเสนอเรียกเก็บค่าบริการนั่งในร้านเป็นรายชั่วโมงโดยปริยายนะครับ ร้านจึงไม่มีสิทธิโดยชอบที่จะเรียกเก็บค่าบริการใช้สถานที่ครับ

34
ในกรณีนี้ ก่อนอื่นต้องดูเรื่องการจดทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวก่อนครับ ในปัจจุบันมีชาวไทยจำนวนไม่น้อยเดินทางไปอาศัยอยู่ต่างประเทศ ไม่ว่าจะไปทำงาน ไปศึกษาต่อ หรือไปเป็นแม่บ้าน คนไทยที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศบางคน อาจมีครอบครัวอยู่ที่นั่น และต้องการจดทะเบียนสมรสให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่สะดวกที่จะเดินทางกลับมาประเทศไทยเพื่อจดทะเบียนสมรส คนไทยเหล่านั้นก็สามารถจดทะเบียนสมรสที่ต่างประเทศได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ สามารถไปยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรสที่สถานเอกอัครราชทูตไทยในประเทศนั้น ๆ ได้เลย ซึ่งทะเบียนสมรสนี้จะถือว่าถูกต้องตามกฎหมายไทย เหมือนกับที่จดทะเบียนสมรสในประเทศไทยทุกประการ แต่ในกรณีที่จดทะเบียนสมรสที่ สำนักงานใด ๆ ในต่างประเทศที่เทียบเท่า สำนักงานเขต/อำเภอในประเทศไทย ก็จะถือว่าทะเบียนสมรสนั้นถูกต้องตามกฎหมายของประเทศนั้น ๆ และถ้าคู่สมรสที่เป็นคนไทยประสงค์จะให้ทะเบียนสมรสนี้มีผลถูกต้องตามกฎหมายไทย ก็ให้ดำเนินการขอจดทะเบียนบันทึกฐานะแห่งครอบครัวได้ที่ สำนักงานเขต/อำเภอ ในประเทศไทย เท่านั้น

การบันทึกฐานะแห่งครอบครัว จึงได้แก่ การใดๆ อันเกี่ยวกับฐานะแห่งครอบครัวที่ได้ทำขึ้นในต่างประเทศ ตามแบบซึ่งกฎหมายแห่งที่ทำขึ้นบัญญัติไว้ ทั้งนี้เนื่องจากกฎหมายมีวัตถุประสงค์ที่จะคุ้มครองคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศซึ่งได้กระทำการใดใดอันเกี่ยวกับฐานะแห่งครอบครัวและนำหลักฐานมาบันทึกให้ปรากฏในประเทศไทย เพื่อเป็นหลักฐานในการพิสูจน์ เมื่อเกิดมีกรณีพิพาทเกิดขึ้นหรือเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมาย

ดังนั้น ในกรณีนี้การที่คุณมาบันทึกฐานะแห่งครอบครัวที่ประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว จึงเท่ากับคุณได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมายไทยทุกประการ ซึ่งตามกฎหมายไทยแล้วแม้คุณจะไม่จดทะเบียนสมรส มารดาก็ถือว่าเป็นมารดาที่ชอบด้วยกฎหมายของบุตรทุกกรณี การที่คุณจะใช้สิทธิในการดูแลหรือนำบุตรมาเลี้ยงดูก็ย่อมทำได้ (ไม่เกี่ยวกับการหย่า) แต่บิดาก็มีสิทธิในการดูแลบุตรเช่นกัน ในกรณีที่คุณจะเดินทางออกจากญี่ปุ่น คุณต้องลองตรวจสอบกฎหมายญี่ปุ่นดูนะครับ แต่โดยปกติแล้วไม่น่ราจะถือเป็นการลักพาตัวครับ

35
บริษัท เอสพีแอลเอ ลอว์ จำกัด โดยทนายปรีชา หยกทองวัฒนา จัดอบรมประจำปีให้แก่พนักงานในหัวข้อที่น่าสนใจ และเหมาะแก่การใช้ชีวิตของพนักงาน ดังนี้
  - ข้อควรรู้ในการใช้บัตรเครดิต
  - การลงทุนที่มีความเสี่ยงต่อการถูกโกง
  - กฎหมายค้ำประกันแก้ไขใหม่
  - กฎหมายทวงหนี้ล่าสุด
  - การอายัดเงินจากการทำงาน
  - หัวข้ออื่นๆตามที่บริษัทต้องการ (ถ้าหากมี)
โดยจะใช้เวลาไม่เกิน 3 ชม.
บริษัทหรือกลุ่มบุคคลสาขาอาชีพใดสนใจ สามารถแจ้งนัดอบรมล่วงหน้าอย่างน้อย 2 อาทิตย์ค่ะ

ค่าอบรมเริ่มต้นเพียง 5,900 บาทต่อคอร์ส เท่านั้น ไม่จำกัดจำนวนผู้เข้าอบรม (ไม่รวมค่าเดินทางกรณีต่างจังหวัด)
(หากเป็นคอร์สเล็กสามารถแจ้งปรับราคาได้ตามความเหมาะสม)

ติดต่อได้ที่คุณศิริขวัญ โทร 0897881248,0863079407, คุณบุษบา โทร 0816024633

ประวัติทนายความโดยสังเขป
ทนายปรีชา หยกทองวัฒนา
ปริญญานิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (เกียรตินิยมอันดับสอง) พ.ศ. 2541
-เนติบัณฑิตไทย พ.ศ. 2546
-ผ่านการอบรมวิชาว่าความ สานักอบรมศึกษาวิชาว่าความ สภาทนายความ รุ่นที่ 15 พ.ศ. 2541
- ผ่านการอบรมทนายความผู้ทาคารับรองลายมือชื่อและเอกสารจากสภาทนายความ (Notarial Services Attorney)
มีความเชี่ยวชาญในข้อกฎหมาย/อรรถคดี/บัตรเครดิต /ที่ปรึกษากฎหมายด้านแรงงาน

36
เหตุหย่าตามกฎหมายมีดังนี้ครับ
(๑)สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(๒) สามีหรือภริยาประพฤติชั่ว ไม่ว่าความประพฤติชั่วนั้นจะเป็นความผิดอาญาหรือไม่ ถ้าเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่ง

(ก)ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง

(ข)ได้รับความดูถูกเกลียดชังเพราะเหตุที่ยังคงเป็นสามีหรือภริยาของฝ่ายที่ประพฤติชั่วอยู่ต่อไป หรือ

(ค)ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอาสภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันท์สามีภริยามาคำนึงประกอบ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้

(๓) สามีหรือภริยาทำร้าย หรือทรมานร่างกาย หรือจิตใจ หรือหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่ง หรือบุพการี (ปู่ ย่า ตา ยาย ทวด) ของอีกฝ่ายหนึ่งอย่างร้ายแรงอีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

(๔) สามีหรือภริยาจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปี อีกฝ่ายหนึ่งนั้น ฟ้องหย่าได้

(๔/๑) สามีหรือภริยาต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และได้ถูกจำคุกเกินหนึ่งปีในความผิดที่อีกฝ่ายมิได้ก่อให้เกิดการกระทำความผิดหรือยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้นด้วย และการที่เป็นสามีภริยากันต่อไปจะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับความเดือดร้อนเกินควร อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้

(๔/๒) สามีและภริยาสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปี หรือแยกกันอยู่ตามคำสั่งของศาลเป็นเวลาเกินสามปี ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

(๕) สามีหรือภริยาถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ หรือไปจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นเวลาเกินสามปีโดยไม่มีใครทราบแน่ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

(๖)สามีหรือภริยาไม่ให้ความช่วยเหลือเลี้ยงดูอุปการะอีกฝ่ายหนึ่งตามสมควรหรือทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากันอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ถ้าการกระทำนั้นถึงขนาดที่อีกฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอาสภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้

(๗) สามีหรือภริยาวิกลจริตตลอดมาเกินสามปี และความวิกลจริตนั้นมีลักษณะยากจะหายได้ กับทั้งความวิกลจริตถึงขนาดที่จะทนอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาต่อไปไม่ได้ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

(๘) สามีหรือภริยาผิดทัณฑ์บนที่ทำให้ไว้เป็นหนังสือในเรื่องความประพฤติ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

(๙)สามีหรือภริยาเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรงอันอาจเป็นภัยแก่อีกฝ่ายหนึ่งและโรคมีลักษณะเรื่อรังไม่มีทางที่จะหายได้ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้

(๑๐) สามีหรือภริยามีสภาพแห่งกาย ทำให้สามีหรือภริยานั้นไม่อาจร่วมประเวณีได้ตลอดกาล

การแยกห้องนอนจึงยังไม่ชัดเจนตามเหตุหย่านะครับ แต่หากมีเหตุอื่นถึงขั้นเป็นการทรมานทางจิตใจในการใช้ชีวิตคู่ร่วมกันก็อาจเป็นเหตุหย่าได้ ต้องดูองค์ประกอบอื่นด้วยครับ
ในส่วนการหย่า มีการหย่าโดยยินยอม คือ ไปหย่ากันที่เขต หรืออำเภอ และการหย่าโดยคำสั่งศาล คือ การฟ้องหย่า ไม่มีกรณีส่งเอกสารหย่าให้เซ็นครับ

37
การรับรองบุตร
การจดทะเบียนรับรองบุตรเป็นเรื่องที่เฉพาะตัว ไม่จำเป็นต้องให้คู่สมรสของฝ่ายชายยินยอมด้วย อย่างไรก็ตามต้องได้รับความยินยอมจากตัวบุตร และมารดาของบุตร ต่อมาในกรณีบุตรที่บิดารับรองแล้ว ให้บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้รับรองแล้วนั้นให้ถือว่าเป็นผู้สืบสันดานเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายครับ

38
ก่อนอื่นรีบไปแจ้งความเป็นหลักฐานไว้ก่อนครับว่าทางเราไม่เคยเช่าซื้อรถ และไม่ได้ลงลายมือชื่อไว้ หลังจากนัั้นนำหลักฐานไปแจ้งบริษัทรถ หากมีการฟ้องร้องก็ต้องต่อสู้คดีครับ

39
ในกรณีนี้อัยการจะฟ้องเฉพาะในส่วนคดีอาญานะครับ ตามข้อเท็จจริงที่คุณแจ้งมาหากเป็นกรณีบาดเจ็บสาหัส อัยการจะฟ้องคนที่ขับรถชนในข้อหา ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งจะมีโทษจำคุก 6-10 ปี แต่อัยการไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่งให้ได้ ดังนั้น คุณต้องฟ้องคดีแพ่งต่างหากเป็นข้อหาละเมิด ซึ่งจะสามารถเรียกค่ารักษาพยาบาล ค่าขาดรายได้จากการประกอบอาชีพ หรือจากคนที่ถูกรถชนต้องมีภาระเลี้ยงดูบุตรและไม่สามารถหารายได้มาเลี้ยงดูบุตรได้ บุตรก็ สามารถเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ครับ
หากคุณไม่อยากจะต้องฟ้องร้องในทางแพ่งเอง ก็ลองเจรจาไกล่เกลี่ยกันให้ได้ โดยหลักก็เรียกค่ารักษาพยาบาล (หลักฐานคือใบเสร็จรับเงินจากโรงพยาบาลที่รักษา, ใบรับรองแพทย์) ค่าขาดรายได้ (หลักฐาน คือ เอกสารแสดงรายได้ที่คุณเคยได้มาก่อนและรายได้ที่คุณขาดหายไป) และลองเจรจากับคนชน ซึ่งหากสามารถตกลงกันได้ ทางฝ่ายคุณก็สามารถช่วยแถลงต่อศาลว่าไม่ติดใจเรียกร้องใดๆจากคนที่ชน และคนที่ชนได้ชดเชยเยียวยาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โทษทางอาญาของผู้กระทำผิดก็จะลดลง เพราะศาลจะนำมาประกอบการพิจารณาลงโทษครับ ...ขอให้โชคดี

40
การมีสิทธิในที่ดินเพียงใดนั้น ต้องดูจากเอกสารสิทธิของที่ดินนั้นๆ ครับ กรณีที่ดินมีโฉนด เจ้าของถือว่ามีกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าว หากเป็นที่ดินน.ส. 3 ,ใบจอง เจ้าของถือว่ามีสิทธิครอบครองในที่ดินเท่านั้น กรณีที่ดินรัศมีเขาหากเป็นที่ไม่มีเอกสารเจ้าของผู้ทำกินก็ถือเป็นผู้ครอบครองเท่านั้นครับ ในส่วนที่เป็นที่รัฐมอบให้ราษฎร์ทำประโยชน์ ราษฎร์จะนำไปยกให้หรือขายผู้อื่นไม่ได้ครับ

41
ทบทวนให้อีกครั้งครับ
"ที่ดินหัวไร่ปลายนา" คือ ที่ดินที่ราษฎรขอจับจองที่ดินแปลงเล็กแปลงน้อย ได้แก่ ที่ดินของรัฐที่มีเนื้อที่ต่ำกว่า 1,000 ไร่ ซึ่งอาจจะมีพื้นที่กระจัดกระจายไม่ติดต่อเป็นผืนเดียวกัน หรือที่ดินที่มีเนื้อที่ติดต่อเป็นผืนเดียวกัน ที่ดินที่อยู่ติดต่อกับที่ดินซึ่งมีการทำประโยชน์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะติดต่อกับที่ดินของผู้ขอเอง หรือติดต่อกับที่ดินของผู้อื่น เรียกว่าที่ดินหัวไร่ปลายนาทั้งสิ้น จะมีอยู่ทั่วไปแปลงละไม่กี่ไร่ โดยรัฐจะออกใบจอง (หนังสือแสดงการยอมให้เข้าครอบครองที่ดินชั่วคราว)ให้แก่ผู้จับจอง เพื่อให้ทำประโยชน์ในที่ดินภายใน 3 ปี นับแต่วันที่ได้รับใบจอง และจะต้องทำประโยชน์ในที่ดินร้อยละ 75 ของที่ดินที่ออกใบจอง
ที่ดินที่มีใบจองนี้ ถ้ายังไม่ได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ จะโอนให้แก่บุคคลอื่นไม่ได้ เว้นแต่จะตกทอดทางมรดก โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นทายาทโดยธรรมหรือผู้รับพินัยกรรม เมื่อทำประโยชน์ตามเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว ก็มีสิทธินำใบจองนั้นมาขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3, น.ส.3 ก. หรือ น.ส.3 ข) หรือโฉนดที่ดินได้ แต่หนังสือรับรองการทำประโยชน์หรือโฉนดที่ดินนั้นจะต้องตกอยู่ในบังคับห้ามโอนตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด

ในกรณีนี้การที่นาย ก. ได้สร้างประตูเหล็กในที่ดินของตนเอง จึงเป็นเรื่องของเอกชนซึ่งหน่วยงานราชการไม่อาจเข้าไปสั่งการให้รื้อถอนได้ แต่หากมีผู้ได้รับความเดือดร้อนก็คงต้องใช้สิทธิในทางศาลเพื่อฟ้องร้องว่าการกระทำของนายก. เป็นการใช้สิทธิเกินส่วน กล่าวคือ แม้ว่าเป็นการใช้สิทธิในพื้นที่ของตนเอง แต่ก็ทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนเกินสมควร ตามกฎหมายลักษณะละเมิด (มาตรา 421) ครับ

42
ในกรณีนี้หากลูกเจ้าของเดิมมาฟ้องร้อง ก็คงต้องต่อสู้เรื่องการครอบครองปรปักษ์ กล่าวคือ ท่านได้ครอบครองที่ดินทั้งหมดมาอย่างสงบ โดยเปิดเผย และมีเจตนาเป็นเจ้าของมากว่า 10 ปี ท่านจึงได้กรรมสิทธิโดยการครอบครองปรปักษ์ครับ

43
ลองติดตามเรื่องจากเขตครับ หากมีการทำผิดจริงไม่ว่าอาชีพไหนก็ต้องรับผิดครับ

44
ลองไปเจรจาดูครับ หากจะชำระทั้งหมดพร้อมค่าปรับก็น่าจะได้นะครับ

45
บริษัทรถต้องฟ้องคุณก่อน และศาลมีคำพิพากษาจึงจะสามารถยึดหรืออายัดทรัพย์สินคุณได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับหนี้ตามคำพิพากษาด้วย หากหนี้ตามคำพิพากษาไม่มาก เช่น ไม่ถึงหนึ่งแสนบาท แต่บริษัททจะยึดบ้านซึ่งมีมูลค่าหลักล้านไม่ได้ครับ
ในส่วนการอายัดเงินเดือนนั้น จะอายัดได้ไม่เกิน 30 % ของเงินเดือนทั้งหมดของคุณและต้องเหลือไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเงินเดือนไม่ถึงหมื่นก็ไม่สามารถอายัดได้ครับ

46
-หากคุณและภริยา ตกลงหย่ากัน คุณกับภริยาสามารถตกลงว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรคนใดได้ตามม.1520 วรรค1 และเมื่อคุณได้ใช้อำนาจปกครองบุตรคนใด คุณก็มีสิทธิกำหนดที่อยู่ของบุตร กล่าวคือ สามารถนำบุตรเข้ามาในทะเบียนบ้านคุณได้ ตามม.1567 (1) ครับ

47
-เมื่อสามีและภรรยา ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ลูกย่อมถือเป็นบุตรชอบด้วยกม.ของผู้เป็นแม่เท่านั้น ตามม.1546 ดังนั้น แม่ย่อมมีสิทธิในการดูแลลูก หากฝั่งสามีไม่ยินยอมก็สามารถฟ้องเรียกบุตรได้ ตามม.1567(4)
1.กรณีฝ่ายชายไม่ให้ลูก อาจต้องฟ้องร้องครับ
2.เรื่องการทิ้งลูกเกิน 1 ปี ไม่ได้มีกฎหมายกำหนดว่าจะทำให้ไม่มีสิทธิในการดูแลบุตรครับ
3.วิธีการแนะนำเบื้องต้นอาจลองไปแจ้งความดู เพื่อให้ตำรวจเรียกมาไกล่เกลี่ย และถ้าไม่สามารถตกลงกันได้ก็ลองไปปรึกษานิติกร หรือทนายความอาสาที่ศาลเยาวชนและครอบครัวประจำจังหวัดเพื่อดำเนินการฟ้องร้องต่อไปครับ

48
ในกรณีเช่นนี้สามารถขายได้ครับ เรียกว่าเป็นการขายดาวส์ โดยทำเป็นสัญญาจะซื้อจะขายได้ ดังนั้น หากคุณประกาศขายแล้วมีผู้สนใจจะซื้อ คุณก็สามารถทำเป็นสัญญาจะซื้อจะขาย และไปดำเนินการประสานงานกับโครงการในการดำเนินการเปลี่ยนคู่สัญญาต่อไป หรือคุณต้องไปคุยเงื่อนไขกับทางโครงการเรื่องการเปลี่ยนคู่สัญญาก่อนครับว่ามีค่าใช้จ่ายหรือไม่อย่างไร

49
"มึงโกงกู" ด่ากันแบบนีเป็นหมิ่นประมาทหรือไม่ !!!

โจทก์และจำเลยทะเลาะโต้เถียงกันด้วยความโกรธ ต่างคนต่างว่าซึ่งกันและกัน ที่จำเลยพูดว่า "มึงโกงกู" เป็นคำโต้ตอบโจทก์เนื่องจากจำเลยไม่เชื่อว่าโจทก์ได้ชำระหนี้ให้จำเลยแล้วโดยการโอนเงินผ่านธนาคาร จะถือว่าจำเลยเจตนาใส่ความโจทก์อันจะเข้าลักษณะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทไม่ได้
(คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1199/2557)

50
1. จากข้อเท็จจริงที่ท่านได้เขียนมา สันนิษฐานได้ว่าท่านไม่ได้จดทะเบียน ณ สถานกงสุลไทย ประจำนิวซีแลนด์ ดังนั้น การจดทะเบียนสมรสของท่านจึงยังไม่มีผลตามกฎหมายไทย ท่านจึงยังไม่ได้เป็นสามีภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมาย

2. ในส่วนอพาร์ทเม้นท์นั้น (กรณีสร้างในประเทศไทย) เมื่อท่านไม่ได้เป็นสามีภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายจึงไม่ถือเป็นสินสมรส แต่หากท่านได้ร่วมกันสร้างขึ้นมา ถือเป็นกรรมสิทธิ์รวมของทั้งคู่ได้ ซึ่งการจะแบ่งกันท่านก็ต้องตกลงแบ่งกันต่อไป
3. การข่มขู่ท่านก็ควรต้องแจ้งความต่อตำรวจ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานหรือดำเนินคดีต่อไป

4.เรื่องลูกชายท่านต้องดำเนินการตามกฎหมายนิวซีแลนด์ เพราะถือว่าท่านได้จดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมายนิวซีแลนด์

5.เรื่องการฟ้องขับไล่พี่สาวสามีออกจากตึกนั้น หากตามกฎหมายไทยท่านสามารถฟ้องได้

6.เรื่องการจำนอง หรือขายตึก ท่านสามารถทำได้ หากแต่อาจมีปัญหาการเพิกถอนในภายหลังหากอดีตสามีฟ้องร้อง ซึ่งท่านจะต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกที่เสียหายด้วย

51
ลองสอบถามไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือดูข้อมูลตามนี้เลยครับ http://www.royalthaipolice.go.th/

52
ไม่เป็นอาชญากรครับ ขออภัยพิมพ์คำว่า ไม่ ตกไป

53
ในกรณีนี้เป็นการให้โดยเสน่หา ซึ่งพ่อแม่ยกให้ก่อนจะเสียชีวิต จึงไม่ใช่มรดก ดังนั้นทรัพย์สินที่พ่อแม่ยกให้จึงตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคุณเพียงผู้เดียวแล้ว ซึ่งในทางความเป็นจริงคุณมีพี่น้องสองคน ย่อมทำให้น้องที่ไม่ได้ทรัพย์สินอะไรเลยมีความรู้สึกที่ไม่ดี ดังนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณว่าจะแก้ปัญหาเช่นไร หากจะแบ่งให้น้องบ้างอาจเป็นที่ดินหรือทรัพย์สินก็น่าจะเป็นการสมควร คุณอาจจะแบ่งเป็นสามส่วนคือ ส่วนของคุณ ส่วนที่ใช้สำหรับการเลี้ยงดูพ่อแม่ก่อนเสียชีวิต และส่วนที่จะให้น้อง เมื่อตกลงกันได้ก็ควรทำสัญญาตกลงเกี่ยวกับทรัพยืสินให้ชัดเจน และเซ็นกันให้เรียบร้อยในวันไปโอนทรัพย์สิน คิดว่าน่าจะแก้ปัญหาได้ครับ
ส่วนเรื่องการหวังว่าให้เขามาเลี้ยงดูพ่อแม่ก็ไม่ควรจะหวังนะครับ ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของแต่ละคน แต่ที่แน่นอนใครกตัญญูกตเวทีคนนั้นไม่มีอับจนหนทาง มีแต่ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองครับ

54
ในกรณีทนายฟรี ลองติดต่อไปที่สภาทนายความดูครับ หรือไปที่ศาลเยาวชนและครอบครัวในจังหวัดที่คุณอยู่อาจมีนิติกรให้คำปรึกษา หรือมีทนายความอาสาที่ช่วยเหลือครับ

55
ก่อสร้างอาคารชุด ติดกระจกรอบอาคาร ทำให้แสงแดดส่องสะท้อนเข้าไปในบ้านข้างเคียง เจ้าของอาคารชุดต้องรับผิดหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3772/2557


 โจทก์ทั้งสี่ฟ้องว่า จำเลยสร้างอาคารชุดรวม 5 หลัง โดยติดตั้งกระจกรอบตัวอาคาร ในระหว่างเดือนพ.ย. ถึงเม.ย.แสงแดดกระทบกับกระจกอาคารของจำเลยสาดเข้าไปในบ้านของโจทก์ ทำให้เกิดแสงสว่างและอุณหภูมิในบ้านสูงขึ้นมากจนไม่สามารถพักอาศัยได้อย่างปกติสุข ได้รับความเดือดร้อนเกินสมควร

ด้วยความหวังดี
ทนายปรีชา หยกทองวัฒนา

ศาลเห็นว่า กรณีบุคคลใดใช้สิทธิของตน เป็นเหตุให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควร แม้สิทธิที่จะปฏิบัติการเพื่อยังให้ความเสียหายหรือเดือดร้อนนั้นให้สิ้นไป จะเป็นสิทธิเฉพาะตัวของเจ้าของอสังหาฯก็ตาม แต่การที่โจทก์อาศัยอยู่ในบ้านและได้รับผลกระทบจากแสงสว่างที่สะท้อนจากอาคารของจำเลยสาดส่องเข้าไปในบ้าน การกระทำของจำเลยถือว่าเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์

ศาลฎีกาพิพากษา...ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่ร่างกายและจิตใจ รวมทั้งค่าตรวจสุขภาพรายปี ให้แก่โจทก์ทั้งสี่ คนละ 10,000 บาทต่อปี และค่าเสียโอกาสใช้สอยพื้นที่หน้าบ้านทั้งสามหลังรวม 7,000 บาทต่อปี

ปัจจุบันมีการสร้างตึกสูงมากมายผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด แม้จะก่อสร้างในที่ดินของตนเอง และออกแบบถูกต้องผ่านขั้นตอนตามกฎหมายเรียบร้อยแล้วก็ตาม แต่เจ้าของอาคารก็พึงควรระวังไม่ทำให้เพื่อนบ้านข้างเคียงเดือดร้อนรำคาญด้วย มิเช่นนั้นก็อาจจะเกิดเหตุดราม่าอย่างเช่นฎีกานี้ได้

***หลักกฎหมายในเรื่องนี้ คือ การใช้สิทธิเกินส่วน ซึ่งหมายถึง แม้บุคคลใดจะกระทำตามสิทธิที่ตนมี แต่ก็ต้องไม่กระทบบุคคลอื่นเกินสมควรนะครับ

56

"ไอ้แก่ แก่แล้วเลอะเลือน"
เป็นคำที่ลูกด่าพ่อ พ่อจะเพิกถอนการให้ที่ดินแก่ลูกได้หรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6424/2557


 พ่อยกที่ดินให้ลูกโดยเสน่หา ต่อมาลูกยักยอกเงินพ่อไป 7 ล้านบาท พ่อไปทวงคืน ลูกพูดว่า ?ไอ้แก่ แก่แล้วเลอะเลือน?

ศาลฎีกา..เห็นว่า การที่บุตรเรียกบิดาว่า "ไอ้แก่" ก็เป็นคำด่าแล้ว ทั้งยังพูดอีกว่า "ไอ้แก่ แก่แล้วเลอะเลือน" จึงเป็นการด่าบิดา โดยไม่ให้ความเคารพนับถือและยำเกรง หยาบคาย แสดงถึงการเหยียดหยามดูแคลนต่อบิดาของตนเอง เป็นถ้อยคำหมิ่นประมาทบิดาอย่างร้ายแรง

พิพากษาให้ลูก..จดทะเบียนโอนที่ดินสองแปลงคืนแก่พ่อไป


 ดังนั้น ไม่ว่าใครให้ทรัพย์สินแก่เรา ผู้ให้ย่อมมีความรัก ความปรารถนาดีต่อเรา ถ้าเราไปด่าทอผู้ให้อย่างร้ายแรง ย่อมกระทบกระเทือนจิตใจผู้ให้เป็นอย่างมาก นอกจากจะถูกตราหน้าว่าเป็น "คนเนรคุณ" แล้ว กฎหมายยังถือว่าผู้รับประพฤติเนรคุณต่อผู้ให้ อันเป็นเหตุที่ผู้ให้สามารถเพิกถอนคืนการให้นั้นได้

ด้วยความหวังดี
ทนายปรีชา หยกทองวัฒนา

57
ในกรณีนี้ถือว่าคุณไม่ได้เป็นสามีภรรยาตามกฎหมาย เพราะไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่หากคุณทำมาหาได้ร่วมกันมาคุณก็มีสิทธิในทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ครึ่งหนึ่งตามหลักกฎหมายเรื่องกรรมสิทธิ์รวม ซึ่งคุณสามารถเจรจาหรือฟ้องร้องเอาได้ ในส่วนที่คุณได้โพสข้อความในเฟสบุ๊คนั้น ต้องดูที่ข้อความที่โพสครับว่าเข้าองค์ประกอบเรื่องหมิ่นประมาทหรือไม่

มาตรา 326* ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

58
เรื่องการเก็บประวัติอาญชกรนั้นต้องถูกดำเนินคดี และมีการพิมพ์ลายนิ้วมือก่อนครับ หากแค่ไปแจ้งความเอกสารหายก็ถือว่าเป็นอาญชกร แต่หากแจ้งความเท็จก็มีความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อพนักงานได้ครับ

59
ใช่ครับ ต้องยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก เมื่อเป็นผู้จัดการมรดกแล้วก็ต้องจัดการทั้งทรัพย์สิน และหนี้สิน ในส่วนของหนี้สินนั้นต้องนำทรัพย์มรดกไปใช้หนี้ ซึ่งการชำระหนี้นั้นไม่เกินทรัพย์มรดกที่มีอยู่ ในส่วนที่ทายาทได้ชดใช้หนี้ไปก็นำมาหักจากทรัพย์มรดกได้ครับ

60
ทางคุณ perasud ได้มีการยื่นขอรังวัดสอบเขตไปแล้วรึยังครับ มีการโต้แย้งคัดค้าน หรือสรุปแนวเขตหรือไม่

ถ้าเชื่อได้ว่าที่ดินมีการรังวัดไม่ถูกต้อง อาจฟ้องกรมที่ดินให้ทำการปักหมุดให้ถูกต้องได้ครับ แต่ก็สมควรที่จะต้องฟ้องที่ดินข้างเคียงให้รือถือกำแพงที่รุกล้ำด้วยเช่นกันครับ

ลองพิจารณาดูครับ การฟ้องคดีย่อมมีค่าใช้จ่ายดำเนินการนะครับ

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 15