ทำอย่างไร ถึงจะใด้สินส่วนตัวคืน

[Amphai]

เรียน ทนายปรีชา ผมมีเรื่องจะปรึกษาเกี่ยวกับการหย่าร้าง

 
ผมเป็นชาวเยอรมัน แต่งงานกับภรรยา (คนไทย) เราแต่งงานกัน 26 ตุลาคม 2544 เราอยู่กินกันที่เมืองไทยมาใด้ 10 ปีแล้วครับ ไม่มีลูกด้วยกัน แต่ภรรยามีลูกกับสามีเก่า 2 คน (ทั้งสองคนอายุมากกว่า 20 ปีแล้ว) เมื่อเดือนมิถุนายน 2553 ผมและภรรยาเราตกลงแยกกันอยู่ เนื่องจากปัญหามากมายภายในครอบครัว (ส่วนมากเกิดจากลูกสาวของภรรยาทำให้เรามีปัญหากันบ่อย) เราตกลงกันว่าต่างคนต่างมีคนใหม่ใด้ ส่วนเรื่องเงินก็ต่างคนต่างใช้ ไม่มีการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ผมใด้ย้ายออกจากบ้าน ( ไปแต่ตัว ) ส่วนภรรยายังอยู่ที่บ้านกับลูกๆของของเธอ ภรรยาเก็บรถเอาใว้ใช้เอง บ้านและรถเป็นชื่อของภรรยาแต่ซื้อด้วยสินส่วนตัวของผม หลังจากผมใด้ย้ายออกจากบ้านใด้ 1 เดือนก็มีแฟนใหม่และย้ายไปอยู่ด้วยกัน
10 ปีที่แต่งงานกันมาผมดูแลครอบครัวเป็นอย่างดี ส่งเสียค่าเล่าเรียนลูกๆ ของภรรยา ให้เงินพ่อและแม่ของภรรยาทุกเดือน รับผิดชอบค่าใช้จ่ายภายในบ้านทุกอย่างประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน เงินทั้งหมดล้วนเป็นเงินของผม เพราะตั้งแต่เราแต่งงานภรรยาไม่เคยทำงานจึงไม่มีรายใด้ ผมเคยให้เงินภรรยาไปทำธุรกิจส่วนตัว 3 ครั้ง รวมเป็นเงินประมาณ 500,000 บาท แต่ก็ไม่เคยทำรายใด้ให้ครอบครัวสักอย่าง จนต้องปิดกิจการทั้งหมด เงินที่ใช้จ่ายใน 10 ปีนี้ เป็นสินส่วนตัวของผมทั้งหมด (รวมทั้งเงินที่นำมาซื้อบ้านและรถ ) เงินทั้งหมดเป็นของขวัญจากพ่อแม่ของผมครับ [ปพพ.มาตรา 1471 (3) ] ซึ่งมีเอกสารแสดงว่า เงินทั้งหมดมอบให้แค่ผมเพียงคนเดียว ผมจ่ายค่าใช้จ่ายภายในบ้านจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2553 หลังจากที่ผมย้ายออกจากบ้านไปก็ไม่เคยส่งเสียภรรยา และภรรยาก็ไม่เคยเรียกร้องอะไรจากผมสามีเช่นกัน ตอนนี้ผมต้องการฟ้องหย่า โดยจะใช้เหตุผลว่าเราไม่เคยมีเพศสัมพันธุ์กันมากกว่า 1 ปี รบกวนช่วยตอบปัญหาของผมดังนี้ด้วยนะครับ
 
1 ภรรยาสามารถฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูใด้มั้ยครับ (ผมมีเอกสารแถลงข้อเท็จจริงว่าผมและภรรยาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเก็บบัญชีธนาคารโดยส่วนตัวและยอดเงินที่เหลือ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะแบกความรับผิดชอบเกี่ยวกับภาระหนี้สินด้วยส่วนของตัวเอง
2 ไม่มีเพศสัมพันธุ์กันมากกว่า 1 ปี ผมจะใช้เป็นเหตุผลในการฟ้องหย่าใด้จริงหรือครับ ผมไม่แน่ใจว่าจะใช้เป็นเหตุการหย่าใด้ แต่เพราะมีทนายอีกคนหนึ่งบอกผมมา ผมต้องการความเห็นจากคุณทนายกรุณาชี้ทางให้ผมด้วยครับ
3 เมื่อผมสามีอ้างสิทธิ์ว่าบ้านและรถเป็นสินส่วนตัวของผม แล้วภรรยามีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องอะไรใด้บ้างครับ (ภรรยาต้องการทั้งบ้านและรถ)
4 เหตุฟ้องหย่าตามมาตรา 1516 ปพพ ภรรยายังสามารถใช้เป็นเหตุฟ้องหย่าและเรียกร้องเอาค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงว่ามีความสัมพันธุ์กับผมใด้หรือเปล่าครับ (ภรรยาทราบว่าผมคบหาหญิงอื่นและมีความสัมพันธุ์กัน ภรรยายินยอมและรู้เห็นเป็นใจมากกว่า 1 ปี ผมมีเอกสารแถลงข้อเท็จจริงว่าผมและภรรยาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะมีสิทธิ์เปิด หรือมีความสำพันธ์ใหม่ กับบุคคลที่สาม โดยไม่มีผลที่ไม่ดีต่อกันที่จะสืบเนื่องอีก )
5 อีกหนึ่งคำถามครับแต่น่าจะคนละส่วนกี่ยวกับการหย่า ปีแรกที่เราแต่งงานกัน ผมใด้โอนเงินจากบัญชีธนาคารของผม (เป็นบัญชีธนาคารประเทศเยอรมัน) โอนเข้าชื่อบัญชีธนาคารในประเทศไทยของภรรยา ประมาณ 3 ล้านบาท เงินที่ผมโอนมาให้ภรรยา เธอใช้เงินซื้อบ้าน 2 หลัง และรถยนต์ 1 คัน (ซื้อบ้านและรถในพ.ศ 2545 หลังจากแต่งงาน) แต่ภรรยาไม่ใด้แจ้งเจ้าหน้าที่กรมที่ดินว่าแต่งงานกับชาวต่างชาติ และไม่ใด้แจ้งกรมที่ดินว่าเงินที่นำมาซื้อบ้านเป็นเงินของสามีชาวต่างชาติ ผมสามีที่ถูกต้องตามกฏหมายก็ไม่ใด้เซ็นเอกสารใดๆ กรณีนี้ปรากฏข้อเท็จจริงในภายหลังว่ามีการถือที่ดินแทนคนต่างด้าว จะมีการดำเนินการบังคับจำหน่ายที่ดินตามมาตรา 94 และ 96 และลงโทษผู้กระทำความผิดตามมาตรา 113 และลงโทษตามประมวณกฏหมายอาญามาตรา 137 และ 267
ผมใด้ไปขอคำปรึกษาที่ศาล คนที่ให้คำปรึกษาบอกผมว่า ถ้าผมบอกกับกรมที่ดินว่าภรรยาผมใด้ทำผิดคดีอาญา กรมที่ดินก็จะแจ้งตำรวจและดำเนินคดี ทางตำรวจจะเรียกภรรยาผมมาสอบสวน และทางตำรวจก็ยื่นเรื่องต่อศาล ทางศาลก็จะตัดสิน และคืนบ้านทั้งสองหลังให้ผม แต่ต้องขายภายในหนึ่งปี ( ผมอ่านเจอในอินเทอร์เน็ต มีคนต่างชาติชนะคดีแบบนี้ และใด้สินส่วนตัวคืนหลายรายครับ )
ผมพอที่จะมีโอกาศใด้สินส่วนตัวคืนบ้างมั้ยครับ ผมจะต้องทำอย่างไร ทางไหนที่คุณทนายคิดว่าดีที่สุดสำหรับผม ระหว่างฟ้องหย่าภรรยากับฟ้องกรมที่ดินว่าภรรยาใด้ทำผิดตามประมวณกฏหมายของไทย
 
 
ป.ล. ถ้าคุณทนายปรีชาต้องการดูเอกสารแถลงข้อเท็จจริงและเอกสารที่แสดงว่าพ่อและแม่ใด้มอบเงินเป็นของขวัญแก่ผม กรุณาติดต่อกลับ ผมจะส่งให้ในภายหลังครับ
 
รบกวนตอบด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
 
A FOREIGNER LOOKING FOR HELP