ปรึกษาหน่อยครับ

[tanapat]

น้าสาวยกบ้านและที่ดินให้ภรรยาผม เพราะภรรยาผมเป็นคนดูแลน้าสาวมาโดยตลอดจนน้าสาวผมเสียชีวิต แต่ทำเป็นแค่บัณทึกทรัพย์สินโดยมีพยานเซ็นต์ชื่อเพียงคนเดียว และมีทายาทเซ็นต์รับทราบยินยอมกันทุกคน และมีเทปอัดเสียงพูดของน้าสาวผมว่ายกบ้านให้กับภรรยาผมด้วย พอน้าสาวตายลง ลุงก็บอกว่าจะยกบ้านให้แต่ให้เอาของในบ้านมาตีราคาเป็นเงิน และเอาเงินไปแบ่งกับทายาท ผมได้ทำหนังสือว่าทายาททุกคนไม่ติดใจในบ้านพร้อมที่ดินอีก และลงลายมือชื่อทายาทไว้ทุกคน พอตอมาลุงกลับคำจะฟ้องเอาบ้านคืน บอกว่าบัณทึกทรัพย์สินของน้าสาวใช้เป็นพินัยกรรมไม่ได้ ผมกับภรรยากลุ่มใจมาก โดยเฉพาะภรรยาผม
ผมอยากทราบว่า บัณทึกทรัพย์สินที่น้าสาวผมทำ พร้อมลายเซ็นต์ยินยอมจากทายาททุกคนใช้ในศาลได้ไหมครับ และเทปเสียงพูดของน้าสาวผมใช้ได้ไหมครับ
และหนังสือที่ผมทำขึ้นหลังจากที่ผมได้ให้เงินแก่ทายาทที่เอาของในบ้านมาตีราคาเป็นเงิน พร้อมลายเซ็นต์ของทายาทที่เซ็นต์ว่าจะไม่ติดใจในบ้าน จะเอามาใช้ประกอบคดีในศาลได้ไหมครับ และผมมีโอกาศมากน้อยแค่ไหนครับที่จะชนะคดีครับ
ช่วยตอบด่วนด้วยครับเพราะลุงผมกำลังฟ้องร้องคดีอยู่ครับ ตอนนี้มีผู้จัดการมรดก 3คน สองคนไม่ติดใจแต่มีหนึ่งคนที่ต้องการฟ้องรอ้งครับ
ขอบคุณครับที่ให้การปรึกษาครับ

[Preecha Yokthongwattana]

ประการแรกนะครับ การยกให้ที่ดิน ต้องทำตามแบบพิธีที่กฎหมายกำหนด จึงจะสมบูรณ์ครับ ถ้าเป็นที่ดินมีโฉนด ต้องทำการจดทะเบียนโอนยกให้ ณ สำนักงานที่ดิน การให้จึงจะถือว่าสมบูรณ์ครับ แต่หากเป็นที่ดินมือเปล่าประเภท นส.3/นส.3ก. หากเจ้าของผู้ครอบครอง(คุณน้า)แจ้งว่ายกให้ และภรรยาคุณเข้าครอบครองที่ดินโดยสุจริตแล้ว ถือเป็นการได้มาซึ่งที่ดินทางหนึ่งครับ แต่อาจต้องไปใช้สิทธิทางศาลเพื่อให้ได้มาซึ่งความสมบูรณ์ทางทะเบียนอีกขั้นตอนหนึ่งครับ

ประการที่สอง กรณีทรัพย์มรดก ต้องดูข้อแรกก่อนว่าการให้ที่ดินเป็นกรณีเช่นใด ถ้าเป็นที่ดินมีโฉนด การให้ย่อมไม่สมบูรณ์ ที่ดินย่อมตกเป็นทรัพย์มรดกครับ ภรรยาของคุณคงอาจมีสิทธิได้รับในฐานะทายาทคนหนึ่งเท่านั้นครับ แต่หากเป็นที่ดินมือเปล่า ต้องหาทนายความที่มีความสามารถให้ไปดำเนินการเพื่อพิสูจน์สิทธิต่อไปนะครับ